โซลจูบน ━ ; 18


เวลา 20.49 น.


“หนู..” โซลเอ่ยเสียงเรียกน้องขณะที่ก้าวเท้าเดินออกมาจากห้องนอนหลังจากเข้าไปอาบน้ำชำระร่างกายเรียบร้อยแล้ว


เขาเดินไปยังโซฟากลางห้องนั่งเล่นที่ปรากฏร่างของเจ้าตัวแสบกำลังนั่งลูบหัวแมวตัวอ้วนพร้อมกับดูทีวีอยู่ น้องหันมามองตามเสียงเรียกด้วยใบหน้ายิ้มแหยๆ เนื่องด้วยเพราะมีความผิดติดตัวอยู่ จนกระทั่งโซลเดินมาหยุดนั่งชันขาอยู่ตรงหน้า ก่อนจะจับข้อเท้าของอีกฝ่ายขึ้นดู


“ขาเป็นไงบ้าง”


“โซลเราไม่เป็นอะไรจริงๆนะ..แค่มันยังบวมๆ นิดหน่อยเอง แต่ว่าเราประคบจนดีขึ้นแล้ว” เสียงคนน้องรีบชี้แจงกับพี่เขาหวังจะให้คนตรงหน้าลดอาการบึ้งตึงที่แสดงออกมาผ่านสีหน้าได้บ้าง


“เฮ้อ..”

คนพี่ขมวดคิ้วพ่นลมหายใจออกมาก่อนจะลุกขึ้นเดินไปที่โซนห้องครัวสักพักหนึ่ง ใช้เวลาไม่นานนักก็เดินกลับมาพร้อมกับกะละมังน้ำอุ่นขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่มาก


“โซล..”


“แช่ไว้จะได้หายบวม..” พี่เขาเอ่ยสั่งเสียงเรียบนิ่งก่อนจะจับขาน้องดึงให้ลงมาแช่น้ำอุ่นที่เขาเตรียมไว้ พลางใช้มือบีบนวดเบาๆ ไปด้วยเผื่อว่าน้องจะทุเลาความปวดลงไปได้บ้าง


“…”


“…”


“พี่โซล..ไม่ต้องนวดก็ได้ๆ”


“เงียบเถอะ”


“…”


“…”


“..ไม่เห็นต้องทำเสียงดุเลยนี่..”


“หึ..”


“…”


“ไม่ต้องมาทำหน้าแบบนั้นใส่พี่”


“…”


“ดื้อว่ะ”


“…”


“หนูแม่งโคตรดื้อเลย”


“…”


“อย่ามาร้องนะ..”


“…”


“พี่ไม่ปลอบแน่คราวนี้”


“ฮึก โซล” จูเม้มปากน้ำตาคลอใส่พี่เขาเมื่อถูกคนพี่เอ่ยเสียงดุแต่มือก็ยังคงนวดคลึงข้อเท้าให้เขาไปด้วย “เราคิดว่ามันไม่น่าจะเป็นอะไรขนาดนั้น..ขอโทษครับ”


“ขอโทษตัวเองเถอะ”


“งืออ โซลอย่าโกรธ”


“พี่เหนื่อยจะโกรธหนูแล้ว”


“ฮึก..”


“…”


“ไม่ทำแล้ว”


“หึ..”


“…”


“พี่ก็แค่เป็นห่วง แต่ก็นั่นแหละ..มันน่าหงุดหงิดเหมือนกันที่หนูชอบดื้อไม่เข้าเรื่องแบบนี้”


“…”


“ถ้าไม่คิดถึงใจพี่ก็คิดถึงใจม้าหนูบ้างก็ได้”


“เราขอโทษ..” คนถูกดุเอ่ยเสียงหงอย


“…”


“พี่โซล..ขอโทษ”


“..คำขอโทษฟังบ่อยๆใช่ว่าจะดี”


“…”


“ว่าไหมครับ?”


“อึก..โซล..”

น้องเอ่ยเสียงสะอึกสะอื้นเรียกชื่อพี่เขาแต่ก็ไร้การตอบกลับ พี่โซลยังคงบีบนวดให้เขาอย่างเบามือ จนเมื่อเห็นว่าน้ำอุ่นที่เตรียมมาในคราแรกเริ่มเย็นขึ้นแล้วจึงหยุดและลุกเดินออกไปพร้อมกับภาชนะที่ถือมาด้วยในตอนแรก


ดวงตาเรียวสวยที่เคยฉายแววดื้อรั้นอยู่ตลอดเวลา แต่ทว่าตอนนี้กลับเจือไปด้วยน้ำใสๆที่เอ่อล้นคลอเบ้า เหมือนโดนคำพูดของพี่เขาสะกิดเข้ากลางใจอย่างจังจนรู้สึกพูดไม่ออก


หลายครั้งที่เขาเองดื้อรั้นไม่ฟังใครจนลืมนึกถึงคนที่คอยห่วงเขาอยู่ตลอดเวลาอย่างพี่โซล ม้า แล้วก็เพื่อนๆ


โคตรรู้สึกผิดเลย



‘เมี๊ยวว~’


เสียงร้องของโนราดังขึ้น มันเดินเข้ามาคลอเคลียที่ตักเหมือนกับทุกครั้ง          ที่เจ้าของมันรู้สึกไม่ดี จนจูยิ้มออกมาบาง ๆ ก่อนจะยกมือลูบหัวเจ้าสัตว์เลี้ยงตัวโปรดช่างแสนรู้นั่นไปด้วย


“โนรา ทำไงดี..”


‘…’


“ฮึกก..โซลจะเบื่อจูไหมอะ..”


‘เมี๊ยววว~’


“จูดื้อใส่โซลอีกแล้ว ฮือ..”


“…”


ฟึ่บบ


ไม่นานนักเสียงแรงยุบของโซฟาก็ทำให้คนที่กำลังปรับทุกข์กับแมวอยู่หันใบหน้าหงอย ๆ ของตัวเองไปมอง เกิดความเงียบขึ้นเมื่อคนหนึ่งไม่กล้าที่จะเอ่ยอะไรออกไป ส่วนอีกคนก็นั่งหน้าดุมองน้องจนคนถูกมองเลิกลั่กไม่กล้าสบตาด้วย รีบก้มหน้าหนีทำทีเป็นลูบหัวแมวเสียอย่างนั้น


“เฮ้อ มานี่มา”


โซลดึงคนที่นั่งหน้าจ๋อยให้ขึ้นมาบนตักอย่างระมัดระวัง อดไม่ได้ที่จะใจอ่อนอย่างทุกครั้งเมื่อเห็นใบหน้าเศร้าซึมนั่น เขายกมือขึ้นเช็ดคราบน้ำตาที่ไหลเปรอะแก้มใสของน้องไปด้วย


“ฮื่อ..”


“ไหนดูดิ๊..นอกจากจะดื้อเก่งแล้วยังร้องเก่งอีกนะ” คนพี่เอ่ยว่าพร้อมกับจับใบหน้าอีกฝ่ายด้วยสองมือก่อนจะใช้มือข้างนึงบีบปลายจมูกรั้นด้วยความมันเขี้ยว


“งื้ออ โซลเราเจ็บ!” เสียงร้องโวยวายของจูทำให้เจ้าลูกแมวที่นอนอยู่ข้างกันลุกขึ้นมาตะกุยแขนคนพี่จนต้องยกแขนหนี ก่อนที่คนตัวโตจะเอ่ยบ่นพร้อมกับเขกหัวมันไปหนึ่งทีเบาๆ


‘แง่งง เมี๊ยวว’


“แตะไม่ได้เลยนะแม่มึงเนี่ย”


“ง่า โซลอย่าทำลูกเรา” น้องร้องห้ามเมื่อคนพี่ทำท่าจะเขี่ยหัวมันด้วยความหมั่นไส้อีกรอบ จูจึงรีบอุ้มโนราขึ้นมาไว้กับตัว กลายเป็นว่าตอนนี้มีลูกแมวถึงสองตัวกำลังนั่งอยู่บนตักของโซล

..ลูกแมวตัวหนึ่งที่พี่เขาไม่ได้นึกเอ็นดูมันเท่าไหร่นัก


กับลูกแมวขี้ดื้ออีกตัว ที่พี่เขาโคตรรักโคตรหวง..



“หนูดูมันดิ”คนตัวโตเรียกให้อีกฝ่ายดูเมื่อเขากำลังจะเอื้อมมือหยิกแก้มนิ่มของน้อง แต่กลับถูกเจ้าแมวหวงเจ้าของทำท่าจะปัดมือเขาออกราวกับไม่ยอมให้แตะต้องเสียอย่างนั้น “ดื้อทั้งแม่ทั้งลูก”


“ฮื่อ โซลอะ” คนถูกกล่าวหาซบลงที่ไหล่กว้างอย่างออดอ้อนแถมยังคลอเคลียเป็นลูกแมวกดจูบที่ข้างแก้มพี่เขาอีกหลายทีหวังจะให้คนตรงหน้าอารมณ์ดีขึ้นมาหน่อย


“หึ..”โซลส่ายหน้าอย่างอ่อนใจก่อนจะจับคนตรงหน้าฟัดแก้มคืนให้หายดื้อโดยไม่ได้สนใจเจ้าลูกแมวที่ส่งเสียงร้องคั่นกลางพวกเขาอยู่เลยแม้แต่น้อย


พี่เขากดจูบที่ริมฝีปากบางช่างยั่วก่อนจะเริ่มสัมผัสหนักขึ้นเรื่อยๆ จนน้องส่งเสียงร้องอื้ออึงในลำคอ โซลถอนจูบออกมามองหน้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้นก่อนจะเริ่มกดจูบลงไปใหม่อีกครั้ง


ริมฝีปากของคนที่เป็นเบาะรองนั่งยังคงดูดดึงกลีบปากเรียวนุ่มนั่นอย่างไม่รู้จบ จนคนที่ถูกจูบเอาๆ หน้าแดงเถือกใช้มือฟาดอกดันพี่เขาออกเพราะตัวเองแทบจะหายใจไม่ทันอยู่แล้ว


ฮื่อ แล้วนี่โนรากระโดดลงจากตักเขาไปตอนไหนยังไม่รู้เลย



คนพี่ยกยิ้มเจ้าเล่ห์เขาเห็นคนที่นั่งอยู่บนตักยังคงเอาแต่ใช้มือเช็ดที่ริมฝีปากสีพีชของตัวเองอย่างขัดเขิน เขาดึงเอวน้องให้ขยับเข้ามาชิดมากกว่าเดิมก่อนที่จะเริ่มไล่จูบไปที่ต้นคอขาวกดแนบริมฝีปากขบเม้มเบาๆ จนคนบนตักขนลุกชันต้องเอียงคอหนีแต่ก็ถูกแขนแกร่งจับยึดไว้


“อื้ออ โซล..”


“หื้ม..” คนพี่ยังคงสูดดมกลิ่นหอมจากซอกคอขาวแถมยังกดจูบไม่หยุดหย่อนจนน้องร้องห้าม แต่ไม่ทันไรก็ถูกปิดด้วยริมฝีปากของคนที่เป็นเบาะรองนั่งอย่างเอาแต่ใจอีกครั้ง

“อื้อ พอ..พอแล้ว”


ไม่หรอก เขายังไม่พอ



“หนู..”



“…”


“ถ้ามีแรงไปวิ่งแอบดูคนอื่น..ก็คงมีแรงทำอย่างอื่นด้วยใช่ไหม..”


.

.


.

เวลา 21.57 น.


“อ๊ะ อ๊ะ อืออ”


เสียงเนื้อกระทบกันดังลั่นไปทั่วห้อง โซลยังคงสอดแทรกกายเข้าออกอย่างต่อเนื่อง สายตาคมจับจ้องลูกแมวขี้ดื้อที่ถูกเขาจับเปลืองผ้าเหลือเพียงเสื้อแขนยาวที่เลิกขึ้นมาจนเห็นหน้าท้องขาวเนียนเคลื่อนไหวตามแรงขยับกายของเขา


“เจ็บขาหรือเปล่า..หื้ม” พี่เขาก้มลงไปถามน้องขณะที่จับขาอีกฝ่ายอ้ากว้างขึ้นพลางสูดดมกลิ่นหอมจากแก้มกลมนั่นไปด้วย ส่วนกลางกายยังคงขยับเข้าออกเป็นจังหวะช้าสลับเร็วจนคนใต้ร่างรู้สึกปั่นป่วนไปหมดแล้ว


“มะ..ไม่เจ็บ อื้มมโซล..” เหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นบนกรอบหน้าของคนที่ส่งเสียงร้องครวญครางอยู่ใต้ร่างคนพี่ บ่งบอกได้อย่างดีว่ากิจกรรมรักของเขาทั้งคู่ยังคงร้อนแรงไม่แพ้ครั้งไหนๆ


ใบหน้าน่ารักขึ้นสีแดงระเรื่อยามถูกพี่เขาเท้าแขนกับที่นอนจ้องมองด้วยสายตาที่แทบจะกลืนกินเขาเข้าไปทั้งตัว นัยน์ตาใสคลอไปด้วยหยาดน้ำตาจากแรงอารมณ์ ยิ่งกระตุ้นให้อีกฝ่ายนึกอยากจะรังแกน้องแรงๆสักที


ผลของการไม่ได้ทำรักกันนานๆ มันยิ่งทำให้เขาต้องการมากขึ้นไปอีก..


ครืดดด ครืดดด


จู่ ๆ เสียงโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงก็ดังขึ้นทำให้โซลชะงักไปนิดหน่อย ตอนแรกเขาไม่ได้สนใจมันเท่าไหร่นัก แต่เสียงสั่นของมันทำให้โซลนึกรำคาญใจจึงเอี่ยวตัวไปหยิบขึ้นมาดูว่าใครกันที่บังอาจโทรมาตอนนี้


“ของหนู” โซลชูโทรศัพท์ที่มีสายเรียกเข้าจากเพื่อนคู่กัดของน้องให้ดู


ไอ้ยูอีกแล้ว!


“อ๊ะ ไม่ต้องรับนะ อ๊า พี่โซล!” น้องทำท่าจะเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ของตัวเองแต่กลับถูกคนพี่กดตัวเอาไว้แถมยังแกล้งกระแทกกายใส่จนจูต้องนิ่วหน้าด้วยความรู้สึกจุกขึ้นมานิดๆ


“อะไรมึง”


“…”


“เออ ทำไม”


“อ๊ะ!”


“..กูจัดการอยู่..อืม..” พูดพร้อมกับปรายสายตามองคนที่ยกหลังมือขึ้นปิดปากกลั้นเสียงครางตัวเองไว้ โซลยังคงขยับกายเข้าออกเป็นจังหวะเนิบนาบราวกับจะแกล้งให้คนที่อยู่ใต้ร่างรู้สึกขาดใจเล่นๆ


“เสือกจริง”


“อ..อือ อ๊ะ!”


“มึงจะคุยไหมล่ะ..” น้องส่ายหน้าหวือปฏิเสธที่จะคุยกับเพื่อนตัวเองตอนนี้ หากเขาคุยแล้วคนที่อยู่ปลายสายรู้ว่าพวกเขากำลังทำอะไรอยู่จะทำยังไง คงไม่พ้นต้องโดนล้ออีกแน่ๆ


“ฮื่อ โซล” เจ้าของชื่อยกยิ้มมุมปากก่อนจะกดเปิดสปีกเกอร์โฟนโยนมันลงข้างๆตัวน้อง ริมฝีปากไล่จูบข้างกกหูก่อนจะกระซิบบอกให้คนใต้ร่างรีบตอบคนปลายสายซะ


(อิน้องจู)


“อ..อะไร”


(มึงโดนเฮียดุปะ)


“อึก อื้อ!” เสียงร้องของจูทำเอาคนปลายสายเข้าใจว่าเพื่อนตอบตน แต่มันกลับไม่ใช่อย่างงั้น เมื่อคนที่คร่อมทับเขาอยู่โน้มตัวเข้ามาประกบจูบดูดดึงริมฝีปากนุ่มนิ่มทั้งที่ส่วนล่างก็ยังคงขยับสอดแทรกเข้าออกอยู่เรื่อยๆ


(หรอๆ ดุไรบ้างวะ)


“ไม่ต้องยุ่งน่ะ อ้ะ!”


(เออๆ ไม่ยุ่งก็ได้..แล้วมึงบล็อกกูอีกแล้วใช่ไหมเนี่ย ปลดบล็อกเลยนะสัส)


(จูๆปลดบล็อกกูนะๆ)


“โซล..อย่าแกล้ง อ้ะๆ” คนที่สติไม่ค่อยจดจ่อกับการคุยโทรศัพท์เท่าไหร่นัก เอ่ยขึ้นพร้อมกับดันหน้าท้องแกร่งของพี่เขาไว้เมื่ออีกฝ่ายเริ่มตอกสะโพกหนักหน่วงขึ้นเรื่อย ๆ อีกครั้งแล้ว


(จูมึงทำไรวะ..)


“อือ อ้ะ..อะ”


(จู..)


“ซี้ดด หนู..พี่ไม่ไหวแล้วว่ะ”



(เชี่ยยยยย อิน้องจูมึงทะ...)


จูรีบคว้าโทรศัพท์มากดตัดสายเพื่อนอย่างลวก ๆ เมื่อพี่เขาขยับกายเร่งจังหวะเร็วขึ้นจนร่างเขาสั่นคลอนไปทั้งตัว


ไม่ไหว เขาไม่ไหวแล้ว



“อ๊ะ อ๊ะ อ่า!” กายเล็กสั่นระริกเพราะความเสียวซ่านที่แล่นเข้ามาก่อนจะกระตุกเฮือกปลดปล่อยน้ำสีขาวขุ่นออกมาจนเลอะหน้าท้อง


“ซี๊ด อืมม..อ่าห์” โซลเร่งจังหวะขึ้นอีกครั้งเขาขบกรามแน่นเพราะอารมณ์ที่พุ่งถึงขีดสุด ก่อนจะแทกกายเข้าไปอีกสองสามทีพร้อมกับบางอย่างฉีดพุ่งเข้าไปยังร่างกายของคนที่นอนหอบหมดแรงจนมันล้นทะลักออกมาเปรอะเปื้อนเต็มขา


คนตัวโตกดจูบไปที่กลุ่มผมนิ่มอย่างแสนรักแล้วไล่ลงมาจูบที่กลีบปากเล็กอีกหลายทีคล้ายกับเป็นรางวัลก่อนจะค่อยๆขยับถอนกายออกมา


เพียะ!


“แกล้งเราอะ!”


“ก็หนูอยากน่าแกล้งทำไม” พูดยิ้มๆ อย่างไม่สะทกสะท้านอะไรแล้วก้มลงหอมแก้มเนียนที่ตอนนี้ยังคงขึ้นสีแดงเลือดฝาดอย่างน่ามันเขี้ยว


“ฮืออ โซลถ้ายูมันล้อเราจะทำยังไง นิสัยไม่ดีอะ เราโกรธพี่แล้วนะ”


“ไม่เอาดิ ขอโทษครับถ้ามันล้อเดี๋ยวพี่จะไปจัดการมันเอง”


“ฮื่อ ไม่ต้องมาพูดดีเลย...”







.....

ไปอ่านแชทต่ออออออ



ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม