โซลจูบน ━ ; 16




เวลา 22.16 น.


ภายในห้องพักผู้ป่วยปรากฏร่างของจูที่กำลังนอนอยู่บนเตียงพักฟื้น ดวงตากลมปรือตามองหน้าจอทีวีที่ฉายรายการวาไรตี้อยู่ ฤทธิ์ยาแก้ปวดที่ขอพยาบาลกินไปเมื่อไม่นานเริ่มส่งผลให้เจ้าตัวเกิดอาการง่วงงุนขึ้นมาซะแล้ว


จูเหลือบตามองคนที่เดินออกมาจากห้องน้ำหลังจากที่พี่เขาขอตัวเข้าไปอาบน้ำชำระร่างกาย คนพี่เดินออกมาพร้อมกับยกมือข้างที่ถือผ้าขนหนูขึ้นมาเช็ดผมที่เปียกลู่ เขาเห็นพี่โซลสวมเสื้อยืดสบายๆ กับกางเกงผ้าขายาวที่ใส่นอนเป็นประจำ เดินมาหยุดนั่งอยู่ตรงโซฟาใกล้กับเตียงของเขา


“หนู..ง่วงก็นอน” คนพี่เอ่ยบอกพร้อมกับสายตาที่มองไปทางเจ้าเด็กดื้อของเขา ใบหน้าง่วงงุนที่กำลังฝืนดูทีวีอยู่ทำให้โซลนึกขำออกมาหน่อยๆ


“แปปนึง เรากำลังดูนี่อยู่”


“ดูที่ไหน ตาจะปิดอยู่แล้ว”


“เราดูอยู่เหอะ..งื้อ ปิดทำไมเล่า”


“นอน..”


“โธ่..” โซลส่ายหน้าเบาๆ ก่อนจะยกมือขึ้นเช็ดผมพร้อมกับเดินไปปิดไฟให้เหลือแค่เพียงดวงไฟสลัวๆ เพื่อให้คนป่วยได้นอนพักผ่อน


“โซล..เราเช็ดผมให้” จูเอ่ยขึ้นมาก่อนจะค่อยๆ ขยับยันตัวขึ้นโดยการนั่งห้อยขารออยู่บนเตียง


เมื่อคนพี่เห็นแบบนั้นก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ พี่เขาเดินไปนั่งเก้าอี้ตรงหน้าคนน้องก่อนจะยื่นผ้าขนหนูไปให้ หากไม่ทำอย่างงั้นเด็กดื้อของเขาคงไม่ยอมหลับยอมนอนเสียที


ความเงียบเข้าปกคลุมระหว่างเขาทั้งสองคน มือเรียวยังคงทำหน้าที่เช็ดผมให้แถมยังเพิ่มออฟชั่นด้วยการกดนวดที่ศีรษะให้เบาๆ คล้ายกับจะช่วยให้คนตรงหน้ารู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น หลังจากที่รู้มาว่าอีกฝ่ายเครียดเรื่องเขามาตั้งหลายวัน


“โซล..”


“หื้ม?” คนถูกเรียกส่งเสียงในลำคอ ขณะที่เปลือกตาก็ยังคงปิดอยู่


“เราขอโทษนะ..” แม้ก่อนหน้านี้จูจะพูดคำคำนี้ไปแล้ว แต่ยังไงเขาก็รู้สึกอยากขอโทษคนตรงหน้าอีกอยู่ดี


“…”


“ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วง..อึก..ขอโทษ”


“ร้องทำไมครับ บอกว่าไม่เป็นอะไรไงหื้ม” โซลเงยหน้าลืมตามองน้องพร้อมกับมือหนาที่ช่วยปาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มออก


“…”


“พี่ยังไม่ได้ว่าอะไรหนูเลย ไม่ต้องร้อง”


“ฮึก เราอยากขอโทษ ทุกคน..อึก..วุ่นวายเพราะเราคนเดียวเลย ฮือ”


“ทุกคนแค่เป็นห่วงหนูมาก ถ้าอยากขอโทษแค่ดูแลตัวเองแล้วก็หายไวๆก็พอ เข้าใจไหมครับ..อย่าร้องเลยคนเก่ง”


“ฮึกๆ ฮืออ..” น้องพยักหน้ารับเบาๆ เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นของเจ้าตัวทำเอาโซลรู้สึกไม่ดีเอาซะเลย ยิ่งเห็นตาแดง ๆ ของอีกฝ่าย มือที่ยกมาปาดน้ำตาที่ยังคงไหลออกมาไม่หยุดแบบนั้น เขายิ่งไม่ชอบ


“เคยบอกแล้วไง พี่ไม่ชอบน้ำตาหนูเลย”


“ฮึกก ไม่ร้องแล้ว” จูพูดขึ้นพร้อมกับดึงแขนเสื้อตัวเองขึ้นมาเช็ดคราบน้ำใสๆ แต่มันก็ยังไม่วายไหลออกมาอยู่ดี จนรอยยิ้มจางๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ พี่เขาเอื้อมมือไปช่วยเช็ดคราบน้ำตาให้ นึกเอ็นดูไม่น้อยที่พอเขาบอกว่าไม่ชอบก็พยายามทำฮึบเพื่อให้ตัวเองหยุดร้องจนได้


“แล้ว..แล้วโซลไม่โกรธเราหรอ”


“รู้ไหม..ถ้าพี่จะโกรธ..คงโกรธเพราะหนูไม่ยอมฟื้นสักที” นัยน์ตาคมสบตากับอีกฝ่ายที่ยังคงมีน้ำใสๆคลออยู่ เขาเห็นริมฝีปากเล็กเม้มเข้าหากันอย่างคนพยายามสกัดกลั้นอารมณ์ไม่ให้ร้องอีกรอบ


เขาเองก็ไม่อยากนึกถึงช่วงเวลาที่แสนทรมานนั่นแล้ว


ถึงสำหรับคนอื่นมันจะเป็นเวลาแค่ไม่กี่วัน แต่สำหรับเขามันนานมาก การรอใครสักคนโดยที่ไม่รู้ว่าเขาจะฟื้นเมื่อไหร่ มันทรมานจริงๆ และเขาไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นอีกแน่


“เรารู้สึกผิดมาก ทั้งกับม้าแล้วก็พี่ด้วย” จูก้มหน้ารู้สึกผิด ใบหน้าเศร้าซึมของอีกฝ่าย ทำให้โซลยกมือลูบหัวอย่างปลอบโยน


“ถ้ารู้สึกผิด ก็อย่าทำให้พี่กับม้าต้องเป็นห่วงอีก”


“ครับ สัญญาเลย” เอ่ยรับคำพี่เขาพร้อมกับพยักหน้ายิ้มจนเกิดรอยบุ๋มที่แก้มอย่างน่ารัก


“เด็กดี งั้นนอนได้แล้ว”


“อือ..” คนน้องยอมทำตามคำสั่งอย่างว่าง่าย โซลจึงช่วยจับให้อีกฝ่ายล้มตัวนอนดีๆ ก่อนที่เขาจะจัดการดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มให้ หลังจากนั้นก็เดินไปที่โซฟาซึ่งเป็นที่นอนสำหรับคืนนี้อีกครั้ง


เจ้าคนดื้อพลิกตัวหันหน้าไปทางคนตัวโตที่กำลังเก็บของอยู่ตรงโซฟาเพื่อจัดที่นอน แสงไฟสลัวๆ ที่ถูกเปิดไว้เพียงดวงเดียวแต่ก็ทำให้เขาเห็นอีกฝ่ายชัดเจน


“โซล.. “


“ครับ? “


“ยังไม่บอกฝันดีเราเลย”


“อ่า..ฝันดีครับเด็กดื้อ” พี่เขาอมยิ้มเดินมาบอกฝันดีน้องพร้อมกับจูบที่หน้าผากเบาๆ ก่อนจะผละออก แต่ก็ถูกคนเจ็บดึงมือเอาไว้


“โซล”


“หื้ม”


“คิดถึงนะ”



“…”


“คิดถึงโซลจัง”



“พี่ก็คิดถึงหนู”


“…”


“…”


“อยากนอนกอดโซล”


“…”


“นอนด้วยได้ไหม?” 
เปลือกตาเรียวสวยช้อนมองคนที่อยู่ข้างเตียง สายตาอ้อนวอนที่ส่งให้โซล ทำเอาคนพี่นึกอยากจะจับลูกแมวขี้ดื้อตัวนี้ขึ้นมาฟัดแรงๆให้หายคิดถึงสักที


ตื่นมาก็ทำตัวน่ารักซะแล้ว


“..ไม่ได้ครับ”


“ง่า..” น้องเบะปากแสร้งทำหน้าเศร้าใส่จนคนที่ยืนอยู่อดหยิกแก้มเนียนนั่นไม่ได้


“นอนไม่ได้ มันแคบเดี๋ยวโดนขาหนู”


“แต่เราอยากนอนด้วยนี่..เนี่ย ไม่ได้นอนกอดโซลตั้งหลายวันแล้วนะ..” เจ้าเด็กดื้อทำหน้าจ๋อยเอ่ยบ่นพลางชำเลืองมองพี่เขาอย่างคาดหวังไปด้วย


“…”


“นอนไม่หลับแน่เลย ถึงหลับก็ไม่สนิทด้วย..”


“พี่กลัวโดนขาหนู เอางี้..” โซลพูดขึ้นก่อนจะจับเก้าอี้มานั่งลงข้างเตียงอีกครั้ง “พี่อยู่ตรงนี้จนกว่าหนูจะหลับเลยดีไหม”


“..ก็ได้” น้องพยักหน้าก่อนจะดึงแขนพี่เขาที่กำลังลูบหัวกล่อมให้นอนมาจับไว้เรียกสายตาและรอยยิ้มเอ็นดูจากโซลได้ไม่น้อย


เวลาผ่านไปได้ไม่นานก็เกิดความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้ง แต่คนที่นอนอยู่บนเตียงยังคงไม่ยอมหลับทั้งๆที่ง่วงเต็มที่แล้ว จูนอนมองเสี้ยวหน้าพี่เขาที่นั่งเท้าแขนมองเขาอยู่เช่นกันก่อนจะเอ่ยเรียกอีกคนเสียงแผ่วเบาอีกครั้ง


“โซล..”


“…” คนถูกเรียกเลิกคิ้วมอง


“ถ้าเกิดเราไม่ฟื้นขึ้นมาจะทำยังไง”


“…”


“ถ้าเกิดว่าเราหลับไปเป็นเดือน หรือเป็นปี โซลจะหาแฟนใหม่ไหม?”


“พูดอะไรของหนู..นอนได้แล้ว”


“อยากรู้อ่า ยูบอกว่าถ้าเราหลับนานกว่านี้จะหาแฟนใหม่ให้โซลด้วย”


“สรุปตื่นมาเพราะมันขู่หรอ”


“ไม่ใช่ ตื่นมาเพราะคิดถึงโซลต่างหาก.. แน่ๆ เลยต้องเป็นเพราะแบบนั้นแหละ”


“หึ..”


“ว่าไงๆ”


“ไม่มีหรอก เพราะพี่คงจะเป็นบ้าไปซะก่อน” คนตัวโตเอ่ยบอกอย่างขำๆ “ไม่มีใครเอาคนบ้าหรอกว่าไหม”


“มีๆ เราไง” น้องหัวเราะก่อนจะเอ่ยประโยคถัดมา “บ้าแต่หล่อเราก็จะเอานะ  งื้อ..” เสียงหัวเราะคิกคักทำให้โซลโน้มหน้ามากดจูบที่ริมฝีปากช่างพูดนั่น แถมยังลามฟัดที่แก้มเนียนซ้ำๆ หลายๆ ที จนน้องส่งเสียงร้องฮือออกมา


“มันเขี้ยวว่ะ จะนอนได้ยัง ไม่นอนจะทำอย่างอื่นแล้ว”


“บ้าหรอ”


“รู้อะไรไหม..ถ้าหนูยังไม่นอนตอนนี้..ถึงขาหนูเจ็บพี่ก็จะหาวิธีทำจนได้..”

สิ้นสุดคำพูดของโซลเจ้าตัวแสบก็รีบดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดหน้าตัวเองทันที เสียงบ่นอู้อี้พร้อมกับใบหน้าแดงๆ ที่เขาเห็นเพียงแว่บเดียวก็ทำให้อดยิ้มจนปวดแก้มไม่ได้


คนบ้าอะไรวะ


น่ารัก


น่ารักโคตรๆเลย

      




....

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม