โซลจูบน ━ ; 16
เวลา 22.16 น.
ภายในห้องพักผู้ป่วยปรากฏร่างของจูที่กำลังนอนอยู่บนเตียงพักฟื้น ดวงตากลมปรือตามองหน้าจอทีวีที่ฉายรายการวาไรตี้อยู่ ฤทธิ์ยาแก้ปวดที่ขอพยาบาลกินไปเมื่อไม่นานเริ่มส่งผลให้เจ้าตัวเกิดอาการง่วงงุนขึ้นมาซะแล้ว
จูเหลือบตามองคนที่เดินออกมาจากห้องน้ำหลังจากที่พี่เขาขอตัวเข้าไปอาบน้ำชำระร่างกาย คนพี่เดินออกมาพร้อมกับยกมือข้างที่ถือผ้าขนหนูขึ้นมาเช็ดผมที่เปียกลู่ เขาเห็นพี่โซลสวมเสื้อยืดสบายๆ กับกางเกงผ้าขายาวที่ใส่นอนเป็นประจำ เดินมาหยุดนั่งอยู่ตรงโซฟาใกล้กับเตียงของเขา
“หนู..ง่วงก็นอน” คนพี่เอ่ยบอกพร้อมกับสายตาที่มองไปทางเจ้าเด็กดื้อของเขา ใบหน้าง่วงงุนที่กำลังฝืนดูทีวีอยู่ทำให้โซลนึกขำออกมาหน่อยๆ
“แปปนึง เรากำลังดูนี่อยู่”
“ดูที่ไหน ตาจะปิดอยู่แล้ว”
“เราดูอยู่เหอะ..งื้อ ปิดทำไมเล่า”
“นอน..”
“โธ่..” โซลส่ายหน้าเบาๆ ก่อนจะยกมือขึ้นเช็ดผมพร้อมกับเดินไปปิดไฟให้เหลือแค่เพียงดวงไฟสลัวๆ เพื่อให้คนป่วยได้นอนพักผ่อน
“โซล..เราเช็ดผมให้” จูเอ่ยขึ้นมาก่อนจะค่อยๆ ขยับยันตัวขึ้นโดยการนั่งห้อยขารออยู่บนเตียง
เมื่อคนพี่เห็นแบบนั้นก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ พี่เขาเดินไปนั่งเก้าอี้ตรงหน้าคนน้องก่อนจะยื่นผ้าขนหนูไปให้ หากไม่ทำอย่างงั้นเด็กดื้อของเขาคงไม่ยอมหลับยอมนอนเสียที
ความเงียบเข้าปกคลุมระหว่างเขาทั้งสองคน มือเรียวยังคงทำหน้าที่เช็ดผมให้แถมยังเพิ่มออฟชั่นด้วยการกดนวดที่ศีรษะให้เบาๆ คล้ายกับจะช่วยให้คนตรงหน้ารู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น หลังจากที่รู้มาว่าอีกฝ่ายเครียดเรื่องเขามาตั้งหลายวัน
“โซล..”
“หื้ม?” คนถูกเรียกส่งเสียงในลำคอ ขณะที่เปลือกตาก็ยังคงปิดอยู่
“เราขอโทษนะ..” แม้ก่อนหน้านี้จูจะพูดคำคำนี้ไปแล้ว แต่ยังไงเขาก็รู้สึกอยากขอโทษคนตรงหน้าอีกอยู่ดี
“…”
“ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วง..อึก..ขอโทษ”
“ร้องทำไมครับ บอกว่าไม่เป็นอะไรไงหื้ม” โซลเงยหน้าลืมตามองน้องพร้อมกับมือหนาที่ช่วยปาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มออก
“…”
“พี่ยังไม่ได้ว่าอะไรหนูเลย ไม่ต้องร้อง”
“ฮึก เราอยากขอโทษ ทุกคน..อึก..วุ่นวายเพราะเราคนเดียวเลย ฮือ”
“ทุกคนแค่เป็นห่วงหนูมาก ถ้าอยากขอโทษแค่ดูแลตัวเองแล้วก็หายไวๆก็พอ เข้าใจไหมครับ..อย่าร้องเลยคนเก่ง”
“ฮึกๆ ฮืออ..” น้องพยักหน้ารับเบาๆ เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นของเจ้าตัวทำเอาโซลรู้สึกไม่ดีเอาซะเลย ยิ่งเห็นตาแดง ๆ ของอีกฝ่าย มือที่ยกมาปาดน้ำตาที่ยังคงไหลออกมาไม่หยุดแบบนั้น เขายิ่งไม่ชอบ
“เคยบอกแล้วไง พี่ไม่ชอบน้ำตาหนูเลย”
“ฮึกก ไม่ร้องแล้ว” จูพูดขึ้นพร้อมกับดึงแขนเสื้อตัวเองขึ้นมาเช็ดคราบน้ำใสๆ แต่มันก็ยังไม่วายไหลออกมาอยู่ดี จนรอยยิ้มจางๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ พี่เขาเอื้อมมือไปช่วยเช็ดคราบน้ำตาให้ นึกเอ็นดูไม่น้อยที่พอเขาบอกว่าไม่ชอบก็พยายามทำฮึบเพื่อให้ตัวเองหยุดร้องจนได้
“แล้ว..แล้วโซลไม่โกรธเราหรอ”
“รู้ไหม..ถ้าพี่จะโกรธ..คงโกรธเพราะหนูไม่ยอมฟื้นสักที” นัยน์ตาคมสบตากับอีกฝ่ายที่ยังคงมีน้ำใสๆคลออยู่ เขาเห็นริมฝีปากเล็กเม้มเข้าหากันอย่างคนพยายามสกัดกลั้นอารมณ์ไม่ให้ร้องอีกรอบ
เขาเองก็ไม่อยากนึกถึงช่วงเวลาที่แสนทรมานนั่นแล้ว
ถึงสำหรับคนอื่นมันจะเป็นเวลาแค่ไม่กี่วัน แต่สำหรับเขามันนานมาก การรอใครสักคนโดยที่ไม่รู้ว่าเขาจะฟื้นเมื่อไหร่ มันทรมานจริงๆ และเขาไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นอีกแน่
“เรารู้สึกผิดมาก ทั้งกับม้าแล้วก็พี่ด้วย” จูก้มหน้ารู้สึกผิด ใบหน้าเศร้าซึมของอีกฝ่าย ทำให้โซลยกมือลูบหัวอย่างปลอบโยน
“ถ้ารู้สึกผิด ก็อย่าทำให้พี่กับม้าต้องเป็นห่วงอีก”
“ครับ สัญญาเลย” เอ่ยรับคำพี่เขาพร้อมกับพยักหน้ายิ้มจนเกิดรอยบุ๋มที่แก้มอย่างน่ารัก
“เด็กดี งั้นนอนได้แล้ว”
“อือ..” คนน้องยอมทำตามคำสั่งอย่างว่าง่าย โซลจึงช่วยจับให้อีกฝ่ายล้มตัวนอนดีๆ ก่อนที่เขาจะจัดการดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มให้ หลังจากนั้นก็เดินไปที่โซฟาซึ่งเป็นที่นอนสำหรับคืนนี้อีกครั้ง
เจ้าคนดื้อพลิกตัวหันหน้าไปทางคนตัวโตที่กำลังเก็บของอยู่ตรงโซฟาเพื่อจัดที่นอน แสงไฟสลัวๆ ที่ถูกเปิดไว้เพียงดวงเดียวแต่ก็ทำให้เขาเห็นอีกฝ่ายชัดเจน
“โซล.. “
“ครับ? “
“ยังไม่บอกฝันดีเราเลย”
“อ่า..ฝันดีครับเด็กดื้อ” พี่เขาอมยิ้มเดินมาบอกฝันดีน้องพร้อมกับจูบที่หน้าผากเบาๆ ก่อนจะผละออก แต่ก็ถูกคนเจ็บดึงมือเอาไว้
“โซล”
“หื้ม”
“คิดถึงนะ”
“…”
“คิดถึงโซลจัง”
“พี่ก็คิดถึงหนู”
“…”
“…”
“อยากนอนกอดโซล”
“…”
“นอนด้วยได้ไหม?” เปลือกตาเรียวสวยช้อนมองคนที่อยู่ข้างเตียง สายตาอ้อนวอนที่ส่งให้โซล ทำเอาคนพี่นึกอยากจะจับลูกแมวขี้ดื้อตัวนี้ขึ้นมาฟัดแรงๆให้หายคิดถึงสักที
ตื่นมาก็ทำตัวน่ารักซะแล้ว
“..ไม่ได้ครับ”
“ง่า..” น้องเบะปากแสร้งทำหน้าเศร้าใส่จนคนที่ยืนอยู่อดหยิกแก้มเนียนนั่นไม่ได้
“นอนไม่ได้ มันแคบเดี๋ยวโดนขาหนู”
“แต่เราอยากนอนด้วยนี่..เนี่ย ไม่ได้นอนกอดโซลตั้งหลายวันแล้วนะ..” เจ้าเด็กดื้อทำหน้าจ๋อยเอ่ยบ่นพลางชำเลืองมองพี่เขาอย่างคาดหวังไปด้วย
“…”
“นอนไม่หลับแน่เลย ถึงหลับก็ไม่สนิทด้วย..”
“พี่กลัวโดนขาหนู เอางี้..” โซลพูดขึ้นก่อนจะจับเก้าอี้มานั่งลงข้างเตียงอีกครั้ง “พี่อยู่ตรงนี้จนกว่าหนูจะหลับเลยดีไหม”
“..ก็ได้” น้องพยักหน้าก่อนจะดึงแขนพี่เขาที่กำลังลูบหัวกล่อมให้นอนมาจับไว้เรียกสายตาและรอยยิ้มเอ็นดูจากโซลได้ไม่น้อย
เวลาผ่านไปได้ไม่นานก็เกิดความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้ง แต่คนที่นอนอยู่บนเตียงยังคงไม่ยอมหลับทั้งๆที่ง่วงเต็มที่แล้ว จูนอนมองเสี้ยวหน้าพี่เขาที่นั่งเท้าแขนมองเขาอยู่เช่นกันก่อนจะเอ่ยเรียกอีกคนเสียงแผ่วเบาอีกครั้ง
“โซล..”
“…” คนถูกเรียกเลิกคิ้วมอง
“ถ้าเกิดเราไม่ฟื้นขึ้นมาจะทำยังไง”
“…”
“ถ้าเกิดว่าเราหลับไปเป็นเดือน หรือเป็นปี โซลจะหาแฟนใหม่ไหม?”
“พูดอะไรของหนู..นอนได้แล้ว”
“อยากรู้อ่า ยูบอกว่าถ้าเราหลับนานกว่านี้จะหาแฟนใหม่ให้โซลด้วย”
“สรุปตื่นมาเพราะมันขู่หรอ”
“ไม่ใช่ ตื่นมาเพราะคิดถึงโซลต่างหาก.. แน่ๆ เลยต้องเป็นเพราะแบบนั้นแหละ”
“หึ..”
“ว่าไงๆ”
“ไม่มีหรอก เพราะพี่คงจะเป็นบ้าไปซะก่อน” คนตัวโตเอ่ยบอกอย่างขำๆ “ไม่มีใครเอาคนบ้าหรอกว่าไหม”
“มีๆ เราไง” น้องหัวเราะก่อนจะเอ่ยประโยคถัดมา “บ้าแต่หล่อเราก็จะเอานะ งื้อ..” เสียงหัวเราะคิกคักทำให้โซลโน้มหน้ามากดจูบที่ริมฝีปากช่างพูดนั่น แถมยังลามฟัดที่แก้มเนียนซ้ำๆ หลายๆ ที จนน้องส่งเสียงร้องฮือออกมา
“มันเขี้ยวว่ะ จะนอนได้ยัง ไม่นอนจะทำอย่างอื่นแล้ว”
“บ้าหรอ”
“รู้อะไรไหม..ถ้าหนูยังไม่นอนตอนนี้..ถึงขาหนูเจ็บพี่ก็จะหาวิธีทำจนได้..”
สิ้นสุดคำพูดของโซลเจ้าตัวแสบก็รีบดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดหน้าตัวเองทันที เสียงบ่นอู้อี้พร้อมกับใบหน้าแดงๆ ที่เขาเห็นเพียงแว่บเดียวก็ทำให้อดยิ้มจนปวดแก้มไม่ได้
คนบ้าอะไรวะ
น่ารัก
น่ารักโคตรๆเลย
ภายในห้องพักผู้ป่วยปรากฏร่างของจูที่กำลังนอนอยู่บนเตียงพักฟื้น ดวงตากลมปรือตามองหน้าจอทีวีที่ฉายรายการวาไรตี้อยู่ ฤทธิ์ยาแก้ปวดที่ขอพยาบาลกินไปเมื่อไม่นานเริ่มส่งผลให้เจ้าตัวเกิดอาการง่วงงุนขึ้นมาซะแล้ว
จูเหลือบตามองคนที่เดินออกมาจากห้องน้ำหลังจากที่พี่เขาขอตัวเข้าไปอาบน้ำชำระร่างกาย คนพี่เดินออกมาพร้อมกับยกมือข้างที่ถือผ้าขนหนูขึ้นมาเช็ดผมที่เปียกลู่ เขาเห็นพี่โซลสวมเสื้อยืดสบายๆ กับกางเกงผ้าขายาวที่ใส่นอนเป็นประจำ เดินมาหยุดนั่งอยู่ตรงโซฟาใกล้กับเตียงของเขา
“หนู..ง่วงก็นอน” คนพี่เอ่ยบอกพร้อมกับสายตาที่มองไปทางเจ้าเด็กดื้อของเขา ใบหน้าง่วงงุนที่กำลังฝืนดูทีวีอยู่ทำให้โซลนึกขำออกมาหน่อยๆ
“แปปนึง เรากำลังดูนี่อยู่”
“ดูที่ไหน ตาจะปิดอยู่แล้ว”
“เราดูอยู่เหอะ..งื้อ ปิดทำไมเล่า”
“นอน..”
“โธ่..” โซลส่ายหน้าเบาๆ ก่อนจะยกมือขึ้นเช็ดผมพร้อมกับเดินไปปิดไฟให้เหลือแค่เพียงดวงไฟสลัวๆ เพื่อให้คนป่วยได้นอนพักผ่อน
“โซล..เราเช็ดผมให้” จูเอ่ยขึ้นมาก่อนจะค่อยๆ ขยับยันตัวขึ้นโดยการนั่งห้อยขารออยู่บนเตียง
เมื่อคนพี่เห็นแบบนั้นก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ พี่เขาเดินไปนั่งเก้าอี้ตรงหน้าคนน้องก่อนจะยื่นผ้าขนหนูไปให้ หากไม่ทำอย่างงั้นเด็กดื้อของเขาคงไม่ยอมหลับยอมนอนเสียที
ความเงียบเข้าปกคลุมระหว่างเขาทั้งสองคน มือเรียวยังคงทำหน้าที่เช็ดผมให้แถมยังเพิ่มออฟชั่นด้วยการกดนวดที่ศีรษะให้เบาๆ คล้ายกับจะช่วยให้คนตรงหน้ารู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น หลังจากที่รู้มาว่าอีกฝ่ายเครียดเรื่องเขามาตั้งหลายวัน
“โซล..”
“หื้ม?” คนถูกเรียกส่งเสียงในลำคอ ขณะที่เปลือกตาก็ยังคงปิดอยู่
“เราขอโทษนะ..” แม้ก่อนหน้านี้จูจะพูดคำคำนี้ไปแล้ว แต่ยังไงเขาก็รู้สึกอยากขอโทษคนตรงหน้าอีกอยู่ดี
“…”
“ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วง..อึก..ขอโทษ”
“ร้องทำไมครับ บอกว่าไม่เป็นอะไรไงหื้ม” โซลเงยหน้าลืมตามองน้องพร้อมกับมือหนาที่ช่วยปาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มออก
“…”
“พี่ยังไม่ได้ว่าอะไรหนูเลย ไม่ต้องร้อง”
“ฮึก เราอยากขอโทษ ทุกคน..อึก..วุ่นวายเพราะเราคนเดียวเลย ฮือ”
“ทุกคนแค่เป็นห่วงหนูมาก ถ้าอยากขอโทษแค่ดูแลตัวเองแล้วก็หายไวๆก็พอ เข้าใจไหมครับ..อย่าร้องเลยคนเก่ง”
“ฮึกๆ ฮืออ..” น้องพยักหน้ารับเบาๆ เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นของเจ้าตัวทำเอาโซลรู้สึกไม่ดีเอาซะเลย ยิ่งเห็นตาแดง ๆ ของอีกฝ่าย มือที่ยกมาปาดน้ำตาที่ยังคงไหลออกมาไม่หยุดแบบนั้น เขายิ่งไม่ชอบ
“เคยบอกแล้วไง พี่ไม่ชอบน้ำตาหนูเลย”
“ฮึกก ไม่ร้องแล้ว” จูพูดขึ้นพร้อมกับดึงแขนเสื้อตัวเองขึ้นมาเช็ดคราบน้ำใสๆ แต่มันก็ยังไม่วายไหลออกมาอยู่ดี จนรอยยิ้มจางๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ พี่เขาเอื้อมมือไปช่วยเช็ดคราบน้ำตาให้ นึกเอ็นดูไม่น้อยที่พอเขาบอกว่าไม่ชอบก็พยายามทำฮึบเพื่อให้ตัวเองหยุดร้องจนได้
“แล้ว..แล้วโซลไม่โกรธเราหรอ”
“รู้ไหม..ถ้าพี่จะโกรธ..คงโกรธเพราะหนูไม่ยอมฟื้นสักที” นัยน์ตาคมสบตากับอีกฝ่ายที่ยังคงมีน้ำใสๆคลออยู่ เขาเห็นริมฝีปากเล็กเม้มเข้าหากันอย่างคนพยายามสกัดกลั้นอารมณ์ไม่ให้ร้องอีกรอบ
เขาเองก็ไม่อยากนึกถึงช่วงเวลาที่แสนทรมานนั่นแล้ว
ถึงสำหรับคนอื่นมันจะเป็นเวลาแค่ไม่กี่วัน แต่สำหรับเขามันนานมาก การรอใครสักคนโดยที่ไม่รู้ว่าเขาจะฟื้นเมื่อไหร่ มันทรมานจริงๆ และเขาไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นอีกแน่
“เรารู้สึกผิดมาก ทั้งกับม้าแล้วก็พี่ด้วย” จูก้มหน้ารู้สึกผิด ใบหน้าเศร้าซึมของอีกฝ่าย ทำให้โซลยกมือลูบหัวอย่างปลอบโยน
“ถ้ารู้สึกผิด ก็อย่าทำให้พี่กับม้าต้องเป็นห่วงอีก”
“ครับ สัญญาเลย” เอ่ยรับคำพี่เขาพร้อมกับพยักหน้ายิ้มจนเกิดรอยบุ๋มที่แก้มอย่างน่ารัก
“เด็กดี งั้นนอนได้แล้ว”
“อือ..” คนน้องยอมทำตามคำสั่งอย่างว่าง่าย โซลจึงช่วยจับให้อีกฝ่ายล้มตัวนอนดีๆ ก่อนที่เขาจะจัดการดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มให้ หลังจากนั้นก็เดินไปที่โซฟาซึ่งเป็นที่นอนสำหรับคืนนี้อีกครั้ง
เจ้าคนดื้อพลิกตัวหันหน้าไปทางคนตัวโตที่กำลังเก็บของอยู่ตรงโซฟาเพื่อจัดที่นอน แสงไฟสลัวๆ ที่ถูกเปิดไว้เพียงดวงเดียวแต่ก็ทำให้เขาเห็นอีกฝ่ายชัดเจน
“โซล.. “
“ครับ? “
“ยังไม่บอกฝันดีเราเลย”
“อ่า..ฝันดีครับเด็กดื้อ” พี่เขาอมยิ้มเดินมาบอกฝันดีน้องพร้อมกับจูบที่หน้าผากเบาๆ ก่อนจะผละออก แต่ก็ถูกคนเจ็บดึงมือเอาไว้
“โซล”
“หื้ม”
“คิดถึงนะ”
“…”
“คิดถึงโซลจัง”
“พี่ก็คิดถึงหนู”
“…”
“…”
“อยากนอนกอดโซล”
“…”
“นอนด้วยได้ไหม?” เปลือกตาเรียวสวยช้อนมองคนที่อยู่ข้างเตียง สายตาอ้อนวอนที่ส่งให้โซล ทำเอาคนพี่นึกอยากจะจับลูกแมวขี้ดื้อตัวนี้ขึ้นมาฟัดแรงๆให้หายคิดถึงสักที
ตื่นมาก็ทำตัวน่ารักซะแล้ว
“..ไม่ได้ครับ”
“ง่า..” น้องเบะปากแสร้งทำหน้าเศร้าใส่จนคนที่ยืนอยู่อดหยิกแก้มเนียนนั่นไม่ได้
“นอนไม่ได้ มันแคบเดี๋ยวโดนขาหนู”
“แต่เราอยากนอนด้วยนี่..เนี่ย ไม่ได้นอนกอดโซลตั้งหลายวันแล้วนะ..” เจ้าเด็กดื้อทำหน้าจ๋อยเอ่ยบ่นพลางชำเลืองมองพี่เขาอย่างคาดหวังไปด้วย
“…”
“นอนไม่หลับแน่เลย ถึงหลับก็ไม่สนิทด้วย..”
“พี่กลัวโดนขาหนู เอางี้..” โซลพูดขึ้นก่อนจะจับเก้าอี้มานั่งลงข้างเตียงอีกครั้ง “พี่อยู่ตรงนี้จนกว่าหนูจะหลับเลยดีไหม”
“..ก็ได้” น้องพยักหน้าก่อนจะดึงแขนพี่เขาที่กำลังลูบหัวกล่อมให้นอนมาจับไว้เรียกสายตาและรอยยิ้มเอ็นดูจากโซลได้ไม่น้อย
เวลาผ่านไปได้ไม่นานก็เกิดความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้ง แต่คนที่นอนอยู่บนเตียงยังคงไม่ยอมหลับทั้งๆที่ง่วงเต็มที่แล้ว จูนอนมองเสี้ยวหน้าพี่เขาที่นั่งเท้าแขนมองเขาอยู่เช่นกันก่อนจะเอ่ยเรียกอีกคนเสียงแผ่วเบาอีกครั้ง
“โซล..”
“…” คนถูกเรียกเลิกคิ้วมอง
“ถ้าเกิดเราไม่ฟื้นขึ้นมาจะทำยังไง”
“…”
“ถ้าเกิดว่าเราหลับไปเป็นเดือน หรือเป็นปี โซลจะหาแฟนใหม่ไหม?”
“พูดอะไรของหนู..นอนได้แล้ว”
“อยากรู้อ่า ยูบอกว่าถ้าเราหลับนานกว่านี้จะหาแฟนใหม่ให้โซลด้วย”
“สรุปตื่นมาเพราะมันขู่หรอ”
“ไม่ใช่ ตื่นมาเพราะคิดถึงโซลต่างหาก.. แน่ๆ เลยต้องเป็นเพราะแบบนั้นแหละ”
“หึ..”
“ว่าไงๆ”
“ไม่มีหรอก เพราะพี่คงจะเป็นบ้าไปซะก่อน” คนตัวโตเอ่ยบอกอย่างขำๆ “ไม่มีใครเอาคนบ้าหรอกว่าไหม”
“มีๆ เราไง” น้องหัวเราะก่อนจะเอ่ยประโยคถัดมา “บ้าแต่หล่อเราก็จะเอานะ งื้อ..” เสียงหัวเราะคิกคักทำให้โซลโน้มหน้ามากดจูบที่ริมฝีปากช่างพูดนั่น แถมยังลามฟัดที่แก้มเนียนซ้ำๆ หลายๆ ที จนน้องส่งเสียงร้องฮือออกมา
“มันเขี้ยวว่ะ จะนอนได้ยัง ไม่นอนจะทำอย่างอื่นแล้ว”
“บ้าหรอ”
“รู้อะไรไหม..ถ้าหนูยังไม่นอนตอนนี้..ถึงขาหนูเจ็บพี่ก็จะหาวิธีทำจนได้..”
สิ้นสุดคำพูดของโซลเจ้าตัวแสบก็รีบดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดหน้าตัวเองทันที เสียงบ่นอู้อี้พร้อมกับใบหน้าแดงๆ ที่เขาเห็นเพียงแว่บเดียวก็ทำให้อดยิ้มจนปวดแก้มไม่ได้
คนบ้าอะไรวะ
น่ารัก
น่ารักโคตรๆเลย
....
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น