โซลจูบน ━ ; 19
“ยูๆ เราต้องกลับไปเอาของให้พี่โซลอะ” จูเอ่ยบอกกับเพื่อนตัวสูงของเขาหลังจากกดวางสายจากคนพี่เรียบร้อยแล้ว คนปลายสายวานขอให้เขาช่วยกลับไปเอาของที่ลืมไว้ที่ห้องให้หน่อย
“ของไรวะ”
“กระเป๋าเอกสารอะไรไม่รู้เหมือนกัน บอกว่าจะใช้ดีลงานลูกค้า”
“ตอนนี้อะนะ?”
“อือ ก็พี่โซลบอกจะเอาให้ลูกน้องอะ พรุ่งนี้ไม่ทัน”
“เออๆ เดี๋ยวกูไปส่งเอง”
“ก็ต้องเป็นอย่างงั้นอยู่แล้วปะ เป็นคนลากเราออกมาอะ”
“เออไอ้สัส กูก็ต้องไปส่งอยู่แล้วไง มึงนี่..”
เจ้าเพื่อนตัวสูงใช้มือข้างหนึ่งผลักหัวอีกคนเบา ๆ ด้วยความหมั่นไส้ก่อนจะพากันเดินกอดคอกระทั่งมาถึงลานจอดรถ
“จู”
“ฮะ?” คนถูกเรียกหันไปมองเพื่อนตัวเองที่ตอนนี้ขึ้นมานั่งประจำที่คนขับเรียบร้อยแล้ว “เรียกเราไมอะ”
“มึงจะไปจริงดิ?”
“ไปไหน?”
“เอ้า ก็ไปเรียนเยอรมันไรของมึงอะ”
“ทำไมอะ กลัวคิดถึงเราอะดิ๊~”
“เออ ก็กูไม่อยากให้มึงไปอะ กูเหงาหู”
“โว้ะ”
“เชี่ย กูอยู่กับมึงมาตั้งแต่บวกเลขยังไม่คล่องเลยนะ จนตอนนี้มึงจะทิ้งกูแล้ว”
“เว่อร์ เราแค่ไปเรียนปะ”
“เชี่ยแม่ง มึงไม่เข้าใจฟีลกูอะ กูอยู่กับมึงนานเกินไป กูใจหาย”
“ฮ่าๆ” จูได้แต่หัวเราะออกมา มันเป็นเรื่องจริงที่เขาอยู่กับยูมานานมากๆ นานมากจนรู้สึกใจหายที่จะไปอยู่ที่โน้นโดยไม่มีเพื่อนคนนี้
“หัวเราะห่าไร มึงเก็ทฟีลกูปะ ยิ่งมึงไปอยู่คนเดียวกูก็เป็นห่วงอะ ยิ่งเซ่อๆโง่ๆอยู่ด้วย โดนฝรั่งฉุดไปทำไง”
“ยูก็พูดเว่อร์ไปปะ เราก็ไม่ได้บื้อขนาดนั้นนะ” หันมาแว้ดกลับทันที
“...”
“..รู้หน่าว่าเป็นห่วง แต่เราตัดสินใจไปแล้วนี่”
“แม่งเปลี่ยนไม่ได้หรอวะ”
“...”
“เออๆ แล้วแต่มึงแล้วกัน อยู่โน้นก็อย่าทำการใหญ่จีบผู้ชายเหมือนอยู่ที่นี่นะ ไม่งั้นเฮียตามไปฆ่ามึงแน่..โอ๊ยๆ ไอ้สัสเจ็บๆ” เสียงร้องโอดครวญดังขึ้นหลังจากถูกจับบิดที่หูด้านซ้ายอย่างแรงเพราะพูดไม่เข้าหูจูเลยสักนิด
“สมน้ำหน้า เพื่อนจะไปแล้วยังกวนตีนไม่เลิกอีก!”
“มึงแม่ง กูก็หยอกเล่นหรอกหน่า!”
.
.
.
.
“ของไรวะ”
“กระเป๋าเอกสารอะไรไม่รู้เหมือนกัน บอกว่าจะใช้ดีลงานลูกค้า”
“ตอนนี้อะนะ?”
“อือ ก็พี่โซลบอกจะเอาให้ลูกน้องอะ พรุ่งนี้ไม่ทัน”
“เออๆ เดี๋ยวกูไปส่งเอง”
“ก็ต้องเป็นอย่างงั้นอยู่แล้วปะ เป็นคนลากเราออกมาอะ”
“เออไอ้สัส กูก็ต้องไปส่งอยู่แล้วไง มึงนี่..”
เจ้าเพื่อนตัวสูงใช้มือข้างหนึ่งผลักหัวอีกคนเบา ๆ ด้วยความหมั่นไส้ก่อนจะพากันเดินกอดคอกระทั่งมาถึงลานจอดรถ
“จู”
“ฮะ?” คนถูกเรียกหันไปมองเพื่อนตัวเองที่ตอนนี้ขึ้นมานั่งประจำที่คนขับเรียบร้อยแล้ว “เรียกเราไมอะ”
“มึงจะไปจริงดิ?”
“ไปไหน?”
“เอ้า ก็ไปเรียนเยอรมันไรของมึงอะ”
“ทำไมอะ กลัวคิดถึงเราอะดิ๊~”
“เออ ก็กูไม่อยากให้มึงไปอะ กูเหงาหู”
“โว้ะ”
“เชี่ย กูอยู่กับมึงมาตั้งแต่บวกเลขยังไม่คล่องเลยนะ จนตอนนี้มึงจะทิ้งกูแล้ว”
“เว่อร์ เราแค่ไปเรียนปะ”
“เชี่ยแม่ง มึงไม่เข้าใจฟีลกูอะ กูอยู่กับมึงนานเกินไป กูใจหาย”
“ฮ่าๆ” จูได้แต่หัวเราะออกมา มันเป็นเรื่องจริงที่เขาอยู่กับยูมานานมากๆ นานมากจนรู้สึกใจหายที่จะไปอยู่ที่โน้นโดยไม่มีเพื่อนคนนี้
“หัวเราะห่าไร มึงเก็ทฟีลกูปะ ยิ่งมึงไปอยู่คนเดียวกูก็เป็นห่วงอะ ยิ่งเซ่อๆโง่ๆอยู่ด้วย โดนฝรั่งฉุดไปทำไง”
“ยูก็พูดเว่อร์ไปปะ เราก็ไม่ได้บื้อขนาดนั้นนะ” หันมาแว้ดกลับทันที
“...”
“..รู้หน่าว่าเป็นห่วง แต่เราตัดสินใจไปแล้วนี่”
“แม่งเปลี่ยนไม่ได้หรอวะ”
“...”
“เออๆ แล้วแต่มึงแล้วกัน อยู่โน้นก็อย่าทำการใหญ่จีบผู้ชายเหมือนอยู่ที่นี่นะ ไม่งั้นเฮียตามไปฆ่ามึงแน่..โอ๊ยๆ ไอ้สัสเจ็บๆ” เสียงร้องโอดครวญดังขึ้นหลังจากถูกจับบิดที่หูด้านซ้ายอย่างแรงเพราะพูดไม่เข้าหูจูเลยสักนิด
“สมน้ำหน้า เพื่อนจะไปแล้วยังกวนตีนไม่เลิกอีก!”
“มึงแม่ง กูก็หยอกเล่นหรอกหน่า!”
.
.
.
.
.
แกร็ก!
เสียงเปิดประตูห้องดังขึ้น จูเดินก้าวเข้ามาในห้องเพียงลำพังหลังจากที่ตกลงกับเพื่อนตัวสูงว่าเขาจะขึ้นมาเอาของบนห้องเองแล้วให้อีกฝ่ายรออยู่ข้างล่าง เพื่อนของเขาก็รีบตกปากรับคำอย่างไวจนเขาคิดว่ามันก็คงขี้เกียจขึ้นมาจริง ๆ นั่นแหละ
ภายในห้องที่ค่อนข้างมืดสลัวมีเพียงแสงไฟที่ส่องมาจากนอกหน้าต่างเท่านั้น จูรีบเดินไปกดสวิตช์เปิดไฟด้วยความเคยชินก่อนจะแวะลูบหัวเจ้าสัตว์เลี้ยงตัวโปรด เอ่ยหยอกล้อกับมันนิดหน่อย เพราะถูกมันเรียกร้องความสนใจโดยการเดินมาคลอเคลียเขาตั้งแต่เปิดประตูเข้ามา
‘เมี้ยวว~’
“โนรา เดี๋ยวจูหาของให้โซลก่อนนะ” พูดขึ้นหลังจากจับเจ้าลูกแมวตัวอ้วนหอมฟัดไปหนึ่งทีด้วยความเอ็นดู จากนั้นก็รีบกวาดสายตามองไปทั่วห้องเพื่อหากระเป๋าเอกสารที่คนพี่ลืมไว้
“อยู่ไหนนะ..” เสียงเอ่ยบ่นพึมพำกับตัวเอง ดวงตากลมสอดส่องมองหาสิ่งของนั้นตามโต๊ะทำงาน ลิ้นชักใส่ของหรือตามชั้นหนังสือแต่ก็ไม่เจอ
“โซลเอาไว้ไหนเนี่ย..” ใบหน้าเล็กเริ่มบึ้งตึง คิ้วขมวดเข้าหากันเล็กน้อย เมื่อเจ้าตัวหาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ เดินวนไปวนมาอยู่อย่างนั้นจนเริ่มพาลหงุดหงิดใส่คนพี่ซะแล้ว
ก็พี่โซลบอกเขาว่าอยู่ตรงห้องนั่งเล่นนี่
แล้วเนี่ยโทรไปก็ไม่รับสายอีก!
มือเรียวยังคงกดต่อสายหาพี่เขาไม่หยุดพร้อมกับเดินตรงไปที่ประตูห้องนอนคิดเผื่อว่าพี่เขาอาจจะลืมมันไว้ในนี้มากกว่า เพราะเขาวนหานอกห้องแล้วมันไม่มี
“เฮ้ย!”
ปึง!
จูผงะด้วยความตกใจไปแว่บหนึ่งเผลอปิดประตูจนเกิดเสียงดัง ก่อนจะตั้งสติอีกครั้งแล้วค่อย ๆ แง้มประตูเปิดดูอีกรอบ เหมือนกับว่าเมื่อกี้เขาจะเห็นอะไรแว๊บๆด้วย..
มือเรียวค่อยๆดันประตูเข้าไป เขาเห็นบางสิ่งบางอย่างที่ดูรูปทรงคล้ายกับก้อนเมฆลอยอยู่ภายในห้องนอน สายไฟ LED สีนวล ที่ถูกประดับห้อยอยู่ตามก้อนปุกปุยนั่นทำให้มันดูคล้ายกับฝนที่กำลังตกลงมา
มันดูเหมือนกับว่าอยู่ท่ามกลางท้องฟ้ายามค่ำคืน และเขาก็คิดว่ามันดูสวยมากเลยแหละ..
คนตัวเล็กเดินก้าวเข้ามาภายในห้องที่ถูกประดับตกแต่งด้วยเจ้าก้อนเมฆที่ลอยอยู่เต็มเพดาน อยู่ ๆ ดวงตากลมใสก็มีน้ำตาคลอออกมาเมื่อเขาเห็นสิ่งที่ถูกหนีบห้อยตามก้อนสีนวลนั่นชัดเจน มันเป็นรูปที่ถูกถ่ายขึ้นระหว่างเขากับพี่โซล..และเพื่อนสนิททั้งสามคน แถมยังรวมไปถึงเฮียมาร์คกับเฮียแจ็ค
เจ้าตัวเดินดูรูปที่ถูกหนีบห้อยตามแสงไฟ เขาทั้งอมยิ้มแล้วก็หัวเราะกับมันไปด้วยเมื่อรูปถ่ายบางรูปดูเหมือนจะถูกแอบถ่ายตอนไหนไม่รู้ ทั้งตอนอยู่กับพี่โซลและก็เพื่อนๆ
แอบไปทำกันตอนไหนเนี่ย..
เหมือนอารมณ์หงุดหงิดก่อนหน้านี้ได้หายไปแล้วถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกซาบซึ้งใจและอาการหน่วง ๆ ที่ตีตื้นขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อคิดว่าเขาจะไม่ได้เจอพวกเพื่อน เฮีย และพี่โซลบ่อยๆ เหมือนกับทุกวัน ถ้าเขาตัดสินใจไปเรียนต่อ
“หือ?”
จูชะงักไปเล็กน้อยเมื่อหางตาเหลือบไปเห็นบางสิ่งบางอย่างที่ติดอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ มันคือกระดาษโพสต์อิทที่ถูกแปะกระจายไว้ประมาณสี่ห้าใบพร้อมกับข้อความในนั้น เขาจำได้ว่าไม่เคยแปะอะไรไว้หน้ากระจก จึงลองเดินไปดูและพบว่ามันเหมือนจะเขียนถึงเขาเองเนี่ยแหละ
‘ไง อิหนูตกใจล่ะสิ ผัวดีมากเลยนะจัดเซอร์ไพรส์ซะอลังการเลย บอกตามตรงว่าเฮียขี้เกียจฟังเพื่อนเราเอาเฮียไปเปรียบเทียบกับไอ้ห่าโซลแล้วเนี่ย เฮ้อ แล้วตัดสินใจดีแล้วช้ะเรื่องเรียนอะ จริงๆเฮียก็ไม่ค่อยอยากให้ไปเลยอะ แล้วทีนี้ใครจะอยู่เป็นพันธมิตรกับเฮียวะ เซ็งเลย - เฮียแจ็ค –
“เหอะ เราเลิกเป็นพันธมิตรกับเฮียนานแล้วเถอะ” เอ่ยบ่นออกไปพร้อมกับรอยยิ้ม นึกขำเมื่อนึกถึงสิ่งที่พี่ชายตัวดีคนนี้ชอบแกล้งเขา ทั้งก่อนจะได้คบกับพี่โซลหรือกระทั่งตอนนี้ก็ยังชอบแกล้งเขาอยู่เลย
‘โชคดีนะจู เดินทางปลอดภัยดูแลตัวเองด้วยไอ้โซลมันเป็นห่วงเราจะตายแล้ว’ - มาร์ค -
‘น้องจูวว ไม่อยากให้ไปเลยอะ ทำไงดีอยากให้อยู่ถ่ายรูปจบไปด้วยกัน ㅠㅠ เบสท์คงคิดถึงจูมากแน่ๆ ไปตั้งนานแหนะ แล้วทีนี้ใครจะแอบไปเที่ยวกับเบสท์อะ ฮือ ยังไงต้องดูแลตัวเองด้วยนะ โชคดีนะจู♡ - เบสท์ –
‘เจ้าหนูจูลูก อยากตามไปเรียนด้วยจัง แต่คงทำไม่ได้ TT ดูแลตัวเองด้วยนะ ต้องโทรมาหาพวกเราบ่อย ๆ ด้วย ห้ามเงียบหายไปเด็ดขาด ปล. เอาฝรั่งงานดีมาฝากด้วยคน♡♡♡ - กุญแจ –
จูหลุดขำออกมาเมื่อเห็นว่ามีรอยปากกาสีแดงขีดฆ่าบนข้อความที่ขอให้เขาเอาหนุ่มฝรั่งมาฝากและเขียนกำกับไว้ข้างใต้เป็นคำว่า ‘ไม่ต้อง!’ เดาไม่ยากเลยว่าใครเป็นคนเขียน
จูดึงกระดาษโพสต์อิทใบสุดท้ายขึ้นมาอ่าน มันเป็นของเพื่อนรักคู่กัดของเขาที่ทำหน้าไม่รู้เรื่องอะไรตลอดทางกลับมาคอนโดนี่
คงเป็นแผนลากเขาออกไปเพื่อที่จะเซอร์ไพรส์อะไรแบบนี้สินะ
‘อิน้องจู นี่จะเป็นการถามครั้งสุดท้ายของกูว่ามึงจะไปจริง ๆ หรอ ที่นู้นไม่มีกูนะจะบอกให้ ใครจะให้มึงง้องแง้งใส่ได้เท่ากู ผัวก็ไม่ใช่ สัส แล้วถ้ามึงหลงเสน่ห์ฝรั่งขึ้นมาเฮียกูจะทำยังไง กูรู้ว่ามึงแค่ไปเรียนต่อแต่กูก็อดเป็นห่วงมึงไม่ได้ พวกมึงแม่งเหมือนคนในครอบครัวกูไปแล้วอะ ไม่อยากให้มึงไปเลย 3 ปีที่ไม่มีมึง แม่งต้องไม่สนุกแน่ๆ - ยูยูเพื่อนรักสุดหล่อ –
“ไอ้บ้านี่..”
ดวงตาคู่สวยมีน้ำตาเอ่อคลอขึ้นมาอีกครั้งหลังจากอ่านข้อความบนกระดาษเสร็จ ยูเป็นเพื่อนคนสำคัญของเขาจริงๆ เรารู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ยูคอยช่วยเหลือเขาทุกเรื่อง ทั้งดุทั้งด่าจนเขาคิดว่ายูแทบจะเป็นพ่ออีกคน ถึงแม้ว่าจะชอบจิกกัดแซะกันไปมา แต่นั่นแหละคือวิธีการแสดงความรักของพวกเขาเอง
“เฮ้อ” เจ้าตัวกระพริบตาถี่ ๆ เพื่อไล่หยาดน้ำตาออกไป ก่อนจะมองหากระดาษโพสต์อิทของใครอีกคนที่เขาคาดหวังว่าจะได้อ่านข้อความในนั้นเหลือเกิน
“ไม่มีของโซลหรอ..” เอ่ยบ่นพึมพำกับตัวเองสายตาก็ไล่หาตามพื้นเผื่อว่ามันจะตกอยู่ แต่แล้วริมฝีปากเล็กก็เม้มเข้าหากันเมื่อมองหาเท่าไหร่ก็ไม่มี..
Rrrrrrrr
โทรศัพท์ในมือแผดเสียงร้องดังขึ้นจนจูต้องรีบยกขึ้นมาดู และกดรับทันทีเมื่อเห็นว่าปลายสายคือใคร
“...”
(หนู..)
“อือ”
(หาของให้พี่เจอยังครับ..)
“ไม่มีซะหน่อย โซลโกหกเราอะ..”
(อ่า...โดนจับได้อีกแล้วแหะ)
“ฮือ ไม่ต้องเลย” เสียงหัวเราะของคนปลายสายทำให้เจ้าเด็กดื้อเริ่มหน้างอ “โซลทำหรอ หมดนี่น่ะ..”
(ครับ เพื่อนหนูด้วย..ชอบไหม?)
“ชอบดิ เราโคตรชอบเลย..จำได้ว่าเราเคยบอกว่าอยากได้ก้อนเมฆมาไว้ที่ห้องนอน แล้ว..อึก..โซลก็ทำให้อีกแล้วทั้งๆที่บอกว่ามันดูรก”
(พี่ทำเพราะหนูชอบไง)
“...”
(ตามใจคุณทุกอย่างเลยเนี่ย..ผมต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ)
“ฮื่อ..” คนน้องยกมือขึ้นปาดน้ำตาปอยๆ เมื่อมันดูเหมือนจะไหลอีกแล้ว
(หึ หนูเห็นโพสต์อิทหน้ากระจกยัง)
“เห็นแล้ว..เราอ่านแล้วน้ำตาคลอเลย แต่ไม่เห็นมีของโซลเลยอะ..”
(ดูหน้ากระจกดี ๆ สิ)
“เราดูดีแล้วเหอะ ไม่เห็นจะมีเลย” ว่าพร้อมกับเดินไปหยุดตรงบริเวณหน้ากระจกบานใหญ่อีกครั้งเพื่อลองมองหาอีกรอบ
(อ่า..งั้นพี่บอกหนูเองเลยดีไหม?)
“อื้อ...รอฟังอยู่ครับ” คนน้องเอ่ยบอกพร้อมกับอมยิ้มพลางใช้มือเช็ดคราบน้ำตาที่หางตาไปด้วย
(งั้นตั้งใจฟังดี ๆ นะครับคุณ)
(..อย่างแรกเลย..ฝากคุณบอกคนในกระจกหน่อยครับว่าอย่าดื้อให้มาก ผมไปปราบลำบาก)
“ง่า อะไรกัน..”
(หึ..)
“โซลอ่า”
(ก็ชอบดื้อ)
“หงึ..”
(หึ.. อืม...ที่นั่นไม่มีผมอยู่ด้วย ฝากบอกเขาว่าให้ช่วยดูแลตัวเองแทนผมหน่อยได้ไหม..)
“ค..ครับ..”
(บอกเขาว่าอย่าดื้อ อย่าทำให้ตัวเองบาดเจ็บ..)
“...”
(อย่าใจดี อย่าไว้ใจคนอื่นมากไป เพราะมันจะเป็นเขาเองที่เดือดร้อน)
“...”
(อย่าไปไหนมาไหนคนเดียว ถ้าจะไปก็ช่วยบอกผมหน่อย ถึงไม่ได้อยู่ด้วย แต่ให้ผมรับรู้ก็ยังดี..)
“...”
(ห้ามไปทำตัวน่ารักใส่คนอื่น อันนี้สำคัญมาก เพราะผมไม่ชอบเลยเวลาใครมาเกาะแกะเขามากเกินไป..)
“...”
(..บอกเขาด้วยว่ากินข้าวให้ตรงเวลา ก่อนนอนห่มผ้าอุ่นๆ ฝากกอดเขาด้วยเพราะผมไปทำให้ไม่ได้..)
“...”
(..ผมต้องคิดถึงเขามากแน่ ๆ บอกเขาให้หน่อยว่าถ้าว่างก็ช่วยโทรหาผมบ่อยๆ นะครับ)
“อึก..”
(แล้วก็อีกอย่างนึง..)
“...”
“...”
“...”
(ฝากคุณบอกเขาที..ว่าผมรักเขาที่สุด)
“ฮึกก..โซล”
(คุณว่า..เขาจะทำให้ผมได้ไหม?)
“อึก.. ฮืออ”
(อ่า ไม่ร้องสิ..)
“ฮืออออ”
(..เฮ้อ คุณเนี่ย ทำผมห่วงตั้งแต่ยังไม่ไปเลยนะครับ..จริงๆเลย)
“โซลอะ..ฮึก..เราจะทำได้ไง”
(ไหนบอกว่าโตแล้วไง หื้ม)
“...” คนน้องส่ายหน้าไปมาราวกับจะปฏิเสธ อยู่ ๆ จูก็นึกไม่อยากโตขึ้นมาเสียอย่างงั้น อยากอยู่กับพี่โซล อยากให้พี่เขาดูแลไปตลอด
(คนโตแล้วเขาไม่งอแงกันหรอกนะ)
“ไม่อยากโตแล้ว..”
(...)
(..อย่าทำให้ผมไม่อยากให้ไปแล้วสิ..)
“ฮึกก..” เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นยังคงติดอยู่ที่ปลายสายทำเอาคนที่ยืนพิงกำแพงอยู่นอกห้องเริ่มคิดหนักอีกรอบซะแล้ว
เขาตามน้องไปไม่ได้ เพราะเขาก็มีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบเหมือนกัน
เขาควรปล่อยให้อีกฝ่ายไปอยู่ห่างสายตาดีไหม
หรือควรเห็นแก่ตัว จับเจ้าเด็กดื้ออยู่ข้างกายเขาไว้ตลอดดี
(รู้ไหม..กว่าจะตัดสินใจให้คุณไปได้ ผมลำบากขนาดไหน..)
“ฮือออ”
(เฮ้อ..หนูครับ)
(หนูเคยบอกพี่ไว้ใช่ไหมว่าหนูโตแล้ว หนูดูแลตัวเองได้)
“ฮึก..ครับ..”
(เพราะหนูพูดแบบนั้น พี่เลยคิดว่าให้หนูตัดสินใจเลือกอนาคตของหนูเองดีกว่า)
“...”
(ตอนแรกพี่คิดแบบนั้น)
“...”
(แต่ตอนนี้พี่ชักอยากเห็นแก่ตัวซะแล้วสิ..)
“...”
(..ไม่ไปได้ไหม..อยู่กับผมนะครับ..)
“ฮืก ฮืออออ โซล “
(...)
“โซล ฮึกก อยู่ไหน”
“มาให้กอดเลย..”
(...)
“โซล..”
(ครับ.. จะไปให้กอดเลย)
แอ๊ดด
เสียงประตูเปิดอ้าออก แสงไฟจากด้านนอกทำให้เจ้าเด็กดื้อหันมามอง ใบหน้าที่ถูกเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาทำเอาพี่เขานึกสงสารขึ้นมาจับใจ
“ฮึก โซล” น้องใช้หลังมือปาดน้ำตาตัวเองก่อนจะรีบเดินเข้าไปสวมกอดพี่เขาที่ยืนอ้าแขนรอรับอยู่ก่อนแล้ว
เจ้าเด็กดื้อกอดพี่เขาเสียแน่นราวกับกลัวว่าคนตรงหน้าจะหายไปไหน โซลจึงกดจูบที่หน้าผากน้องเบาๆก่อนจะลูบหัวคนที่อยู่ในอ้อมกอดของเขาอย่างปลอบประโลมไปด้วย
“ไม่ต้องร้อง”
“ฮือ ถ้าเอาโซลไปไม่ได้ เราก็ไม่อยากไปแล้ว ฮืออ”
“...”
“ไม่มีพี่อยู่ด้วยเราต้องแย่แน่ ๆ เลย..”
“...”
“ทำไงดี ฮือ”
“ไม่อยากไปแล้วก็ไม่ต้องไปครับ”
“...”
“พี่ก็ไม่ได้อยากให้หนูไปไหนอยู่แล้ว”
“...”
“ขนาดอยู่กับพี่หนูยังดื้อทำตัวเองเจ็บตัวตั้งหลายรอบ ไปอยู่ที่นั่นจะทำพี่ห่วงขนาดไหน” ว่าพร้อมกับลูบแก้มนิ่มของน้องเบาๆ ที่ตอนนี้เจ้าตัวร้องไห้จนน้ำตานองหน้าไปหมดแล้ว
“ฮื่ออ..”
“อยู่กับพี่นะ ถ้าหนูอยากเรียนต่อก็เรียนที่นี่ก็ได้”
“...”
“ถ้าอยากไปที่นั่น ไว้ว่าง ๆ พี่พาหนูไปเที่ยวด้วยกันดีไหม หื้ม?”
“...”
“ไม่เอาหรอ..” เมื่อเห็นน้องก้มเอาหน้าซุกกอดเขานิ่งๆ แถมยังร้องไห้ไม่ยอมหยุด โซลก็เริ่มใจแป้วอีกครั้ง ในใจเริ่มกลัวว่าน้องเลือกที่จะไปห่างจากเขามากกว่าอยู่ด้วยกัน
“จู..”
“ฮื่อ เราไม่ไปแล้วก็ได้..แต่ถ้าโซลทิ้งเราไม่เลี้ยงเราแล้ว เราจะหอบลูกไปขายดอกไม้กับม้าจริง ๆ นะ..โอ๊ย!”
“ใครจะทิ้งหนูวะ”
“งือ..เจ็บอ่า” คนน้องลูบหัวตัวเองปอยๆ หลังจากโดนพี่เขาเขกหัวอย่างไม่เบาแรงนัก ริมฝีปากเล็กยู่เข้ากันก่อนที่จะเอาใบหน้าตัวเองซุกกับไหล่พี่เขาอย่างออดอ้อน
“สมควร..”เอ่ยปากว่าไปอย่างนั้นแต่ก็ยิ้มขำให้กับท่าทางของคนตรงหน้า มือหนาก็ลูบหัวบริเวณที่ตัวเองทำน้องเจ็บไปด้วย “ถึงไม่เรียนพี่ก็เลี้ยงหนูอยู่แล้ว”
“งั้นเราไม่ต้องทำอะไรแล้วใช่ไหม โอ๊ยย! โซลอีกแล้วอ่า..” ส่งเสียงร้องฮือเมื่อถูกพี่เขาเขกหัวให้อีกรอบ
“เดี๋ยวจะโดน”
“อะไรเล่าก็บอกเองว่าจะเลี้ยงเราอะ” บ่นอุบอิบพร้อมกับกอดซุกคนตัวโตไปด้วย
“หึ..”
“โซล..” เสียงเรียกของน้องทำให้พี่เขาเลิกคิ้วมอง ก่อนจะชะงักไปนิดหน่อยเมื่อถูกริมฝีปากคนตรงหน้าแตะที่อวัยวะเดียวกันเบาๆ แล้วผละออกมายิ้มน่ารักให้จนเขาคิดอยากจับคนตรงหน้าฟัดเสียเดี๋ยวนี้
“…”
“รักพี่โซลนะครับ..”
“...”
“โซล บอกกลับหน่อย..” ดวงตาคมสบเข้ากับนัยน์ตาใสเป็นประกายราวกับลูกแมวขี้อ้อน พี่เขามองใบหน้าของคนตรงหน้าอย่างหลงใหลโดยที่ไม่รู้จักเบื่อเลยสักนิด
“หนูแม่งชอบน่ารักอีกแล้วอะ”
“...”
“พี่เหนื่อยไม่รู้บ้างไง”
“ง่า..”
“หึ ถ้าอยู่ด้วยกันสองคน พี่สาบานจะจับหนูบอกรักตั้งแต่ตอนนี้เลย..”
“หมายความว่างะ..อื้ออ”
ยังไม่ทันพูดจบก็ถูกพี่เขาเชยคางขึ้นมารับจูบหวานๆอย่างไม่ทันตั้งตัว คนพี่กดจูบที่ริมฝีปากสวยตอกย้ำความน่ารักของคนตรงหน้าซ้ำๆจนริมฝีปากน้องเริ่มแดงเจ่อรวมถึงใบหน้าที่ขึ้นสีระเรื่อลามไปถึงหู ก่อนที่พี่เขาจะผละออกอย่างนึกเสียดายเมื่อเริ่มถูกคนน้องต่อต้าน แต่ก็ยังคงคลอเคลียที่ข้างแก้มใสอยู่อย่างนั้น
“จู..ทำไงดีวะ พี่โคตรรักหนูเลย”
“ฮื่อ..ไม่ต้องทำอะไรหรอก โซลก็แค่รักหนูไปเรื่อยๆไง ดีไหมครับ?”
แม่ง..ให้ตายเถอะ
เขาโคตรแพ้คนตรงหน้า
โคตรแพ้น้องเลย
‘ไง อิหนูตกใจล่ะสิ ผัวดีมากเลยนะจัดเซอร์ไพรส์ซะอลังการเลย บอกตามตรงว่าเฮียขี้เกียจฟังเพื่อนเราเอาเฮียไปเปรียบเทียบกับไอ้ห่าโซลแล้วเนี่ย เฮ้อ แล้วตัดสินใจดีแล้วช้ะเรื่องเรียนอะ จริงๆเฮียก็ไม่ค่อยอยากให้ไปเลยอะ แล้วทีนี้ใครจะอยู่เป็นพันธมิตรกับเฮียวะ เซ็งเลย - เฮียแจ็ค –
“เหอะ เราเลิกเป็นพันธมิตรกับเฮียนานแล้วเถอะ” เอ่ยบ่นออกไปพร้อมกับรอยยิ้ม นึกขำเมื่อนึกถึงสิ่งที่พี่ชายตัวดีคนนี้ชอบแกล้งเขา ทั้งก่อนจะได้คบกับพี่โซลหรือกระทั่งตอนนี้ก็ยังชอบแกล้งเขาอยู่เลย
‘โชคดีนะจู เดินทางปลอดภัยดูแลตัวเองด้วยไอ้โซลมันเป็นห่วงเราจะตายแล้ว’ - มาร์ค -
‘น้องจูวว ไม่อยากให้ไปเลยอะ ทำไงดีอยากให้อยู่ถ่ายรูปจบไปด้วยกัน ㅠㅠ เบสท์คงคิดถึงจูมากแน่ๆ ไปตั้งนานแหนะ แล้วทีนี้ใครจะแอบไปเที่ยวกับเบสท์อะ ฮือ ยังไงต้องดูแลตัวเองด้วยนะ โชคดีนะจู♡ - เบสท์ –
‘เจ้าหนูจูลูก อยากตามไปเรียนด้วยจัง แต่คงทำไม่ได้ TT ดูแลตัวเองด้วยนะ ต้องโทรมาหาพวกเราบ่อย ๆ ด้วย ห้ามเงียบหายไปเด็ดขาด ปล. เอาฝรั่งงานดีมาฝากด้วยคน♡♡♡ - กุญแจ –
จูหลุดขำออกมาเมื่อเห็นว่ามีรอยปากกาสีแดงขีดฆ่าบนข้อความที่ขอให้เขาเอาหนุ่มฝรั่งมาฝากและเขียนกำกับไว้ข้างใต้เป็นคำว่า ‘ไม่ต้อง!’ เดาไม่ยากเลยว่าใครเป็นคนเขียน
จูดึงกระดาษโพสต์อิทใบสุดท้ายขึ้นมาอ่าน มันเป็นของเพื่อนรักคู่กัดของเขาที่ทำหน้าไม่รู้เรื่องอะไรตลอดทางกลับมาคอนโดนี่
คงเป็นแผนลากเขาออกไปเพื่อที่จะเซอร์ไพรส์อะไรแบบนี้สินะ
‘อิน้องจู นี่จะเป็นการถามครั้งสุดท้ายของกูว่ามึงจะไปจริง ๆ หรอ ที่นู้นไม่มีกูนะจะบอกให้ ใครจะให้มึงง้องแง้งใส่ได้เท่ากู ผัวก็ไม่ใช่ สัส แล้วถ้ามึงหลงเสน่ห์ฝรั่งขึ้นมาเฮียกูจะทำยังไง กูรู้ว่ามึงแค่ไปเรียนต่อแต่กูก็อดเป็นห่วงมึงไม่ได้ พวกมึงแม่งเหมือนคนในครอบครัวกูไปแล้วอะ ไม่อยากให้มึงไปเลย 3 ปีที่ไม่มีมึง แม่งต้องไม่สนุกแน่ๆ - ยูยูเพื่อนรักสุดหล่อ –
“ไอ้บ้านี่..”
ดวงตาคู่สวยมีน้ำตาเอ่อคลอขึ้นมาอีกครั้งหลังจากอ่านข้อความบนกระดาษเสร็จ ยูเป็นเพื่อนคนสำคัญของเขาจริงๆ เรารู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ยูคอยช่วยเหลือเขาทุกเรื่อง ทั้งดุทั้งด่าจนเขาคิดว่ายูแทบจะเป็นพ่ออีกคน ถึงแม้ว่าจะชอบจิกกัดแซะกันไปมา แต่นั่นแหละคือวิธีการแสดงความรักของพวกเขาเอง
“เฮ้อ” เจ้าตัวกระพริบตาถี่ ๆ เพื่อไล่หยาดน้ำตาออกไป ก่อนจะมองหากระดาษโพสต์อิทของใครอีกคนที่เขาคาดหวังว่าจะได้อ่านข้อความในนั้นเหลือเกิน
“ไม่มีของโซลหรอ..” เอ่ยบ่นพึมพำกับตัวเองสายตาก็ไล่หาตามพื้นเผื่อว่ามันจะตกอยู่ แต่แล้วริมฝีปากเล็กก็เม้มเข้าหากันเมื่อมองหาเท่าไหร่ก็ไม่มี..
Rrrrrrrr
โทรศัพท์ในมือแผดเสียงร้องดังขึ้นจนจูต้องรีบยกขึ้นมาดู และกดรับทันทีเมื่อเห็นว่าปลายสายคือใคร
“...”
(หนู..)
“อือ”
(หาของให้พี่เจอยังครับ..)
“ไม่มีซะหน่อย โซลโกหกเราอะ..”
(อ่า...โดนจับได้อีกแล้วแหะ)
“ฮือ ไม่ต้องเลย” เสียงหัวเราะของคนปลายสายทำให้เจ้าเด็กดื้อเริ่มหน้างอ “โซลทำหรอ หมดนี่น่ะ..”
(ครับ เพื่อนหนูด้วย..ชอบไหม?)
“ชอบดิ เราโคตรชอบเลย..จำได้ว่าเราเคยบอกว่าอยากได้ก้อนเมฆมาไว้ที่ห้องนอน แล้ว..อึก..โซลก็ทำให้อีกแล้วทั้งๆที่บอกว่ามันดูรก”
(พี่ทำเพราะหนูชอบไง)
“...”
(ตามใจคุณทุกอย่างเลยเนี่ย..ผมต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ)
“ฮื่อ..” คนน้องยกมือขึ้นปาดน้ำตาปอยๆ เมื่อมันดูเหมือนจะไหลอีกแล้ว
(หึ หนูเห็นโพสต์อิทหน้ากระจกยัง)
“เห็นแล้ว..เราอ่านแล้วน้ำตาคลอเลย แต่ไม่เห็นมีของโซลเลยอะ..”
(ดูหน้ากระจกดี ๆ สิ)
“เราดูดีแล้วเหอะ ไม่เห็นจะมีเลย” ว่าพร้อมกับเดินไปหยุดตรงบริเวณหน้ากระจกบานใหญ่อีกครั้งเพื่อลองมองหาอีกรอบ
(อ่า..งั้นพี่บอกหนูเองเลยดีไหม?)
“อื้อ...รอฟังอยู่ครับ” คนน้องเอ่ยบอกพร้อมกับอมยิ้มพลางใช้มือเช็ดคราบน้ำตาที่หางตาไปด้วย
(งั้นตั้งใจฟังดี ๆ นะครับคุณ)
(..อย่างแรกเลย..ฝากคุณบอกคนในกระจกหน่อยครับว่าอย่าดื้อให้มาก ผมไปปราบลำบาก)
“ง่า อะไรกัน..”
(หึ..)
“โซลอ่า”
(ก็ชอบดื้อ)
“หงึ..”
(หึ.. อืม...ที่นั่นไม่มีผมอยู่ด้วย ฝากบอกเขาว่าให้ช่วยดูแลตัวเองแทนผมหน่อยได้ไหม..)
“ค..ครับ..”
(บอกเขาว่าอย่าดื้อ อย่าทำให้ตัวเองบาดเจ็บ..)
“...”
(อย่าใจดี อย่าไว้ใจคนอื่นมากไป เพราะมันจะเป็นเขาเองที่เดือดร้อน)
“...”
(อย่าไปไหนมาไหนคนเดียว ถ้าจะไปก็ช่วยบอกผมหน่อย ถึงไม่ได้อยู่ด้วย แต่ให้ผมรับรู้ก็ยังดี..)
“...”
(ห้ามไปทำตัวน่ารักใส่คนอื่น อันนี้สำคัญมาก เพราะผมไม่ชอบเลยเวลาใครมาเกาะแกะเขามากเกินไป..)
“...”
(..บอกเขาด้วยว่ากินข้าวให้ตรงเวลา ก่อนนอนห่มผ้าอุ่นๆ ฝากกอดเขาด้วยเพราะผมไปทำให้ไม่ได้..)
“...”
(..ผมต้องคิดถึงเขามากแน่ ๆ บอกเขาให้หน่อยว่าถ้าว่างก็ช่วยโทรหาผมบ่อยๆ นะครับ)
“อึก..”
(แล้วก็อีกอย่างนึง..)
“...”
“...”
“...”
(ฝากคุณบอกเขาที..ว่าผมรักเขาที่สุด)
“ฮึกก..โซล”
(คุณว่า..เขาจะทำให้ผมได้ไหม?)
“อึก.. ฮืออ”
(อ่า ไม่ร้องสิ..)
“ฮืออออ”
(..เฮ้อ คุณเนี่ย ทำผมห่วงตั้งแต่ยังไม่ไปเลยนะครับ..จริงๆเลย)
“โซลอะ..ฮึก..เราจะทำได้ไง”
(ไหนบอกว่าโตแล้วไง หื้ม)
“...” คนน้องส่ายหน้าไปมาราวกับจะปฏิเสธ อยู่ ๆ จูก็นึกไม่อยากโตขึ้นมาเสียอย่างงั้น อยากอยู่กับพี่โซล อยากให้พี่เขาดูแลไปตลอด
(คนโตแล้วเขาไม่งอแงกันหรอกนะ)
“ไม่อยากโตแล้ว..”
(...)
(..อย่าทำให้ผมไม่อยากให้ไปแล้วสิ..)
“ฮึกก..” เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นยังคงติดอยู่ที่ปลายสายทำเอาคนที่ยืนพิงกำแพงอยู่นอกห้องเริ่มคิดหนักอีกรอบซะแล้ว
เขาตามน้องไปไม่ได้ เพราะเขาก็มีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบเหมือนกัน
เขาควรปล่อยให้อีกฝ่ายไปอยู่ห่างสายตาดีไหม
หรือควรเห็นแก่ตัว จับเจ้าเด็กดื้ออยู่ข้างกายเขาไว้ตลอดดี
(รู้ไหม..กว่าจะตัดสินใจให้คุณไปได้ ผมลำบากขนาดไหน..)
“ฮือออ”
(เฮ้อ..หนูครับ)
(หนูเคยบอกพี่ไว้ใช่ไหมว่าหนูโตแล้ว หนูดูแลตัวเองได้)
“ฮึก..ครับ..”
(เพราะหนูพูดแบบนั้น พี่เลยคิดว่าให้หนูตัดสินใจเลือกอนาคตของหนูเองดีกว่า)
“...”
(ตอนแรกพี่คิดแบบนั้น)
“...”
(แต่ตอนนี้พี่ชักอยากเห็นแก่ตัวซะแล้วสิ..)
“...”
(..ไม่ไปได้ไหม..อยู่กับผมนะครับ..)
“ฮืก ฮืออออ โซล “
(...)
“โซล ฮึกก อยู่ไหน”
“มาให้กอดเลย..”
(...)
“โซล..”
(ครับ.. จะไปให้กอดเลย)
แอ๊ดด
เสียงประตูเปิดอ้าออก แสงไฟจากด้านนอกทำให้เจ้าเด็กดื้อหันมามอง ใบหน้าที่ถูกเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาทำเอาพี่เขานึกสงสารขึ้นมาจับใจ
“ฮึก โซล” น้องใช้หลังมือปาดน้ำตาตัวเองก่อนจะรีบเดินเข้าไปสวมกอดพี่เขาที่ยืนอ้าแขนรอรับอยู่ก่อนแล้ว
เจ้าเด็กดื้อกอดพี่เขาเสียแน่นราวกับกลัวว่าคนตรงหน้าจะหายไปไหน โซลจึงกดจูบที่หน้าผากน้องเบาๆก่อนจะลูบหัวคนที่อยู่ในอ้อมกอดของเขาอย่างปลอบประโลมไปด้วย
“ไม่ต้องร้อง”
“ฮือ ถ้าเอาโซลไปไม่ได้ เราก็ไม่อยากไปแล้ว ฮืออ”
“...”
“ไม่มีพี่อยู่ด้วยเราต้องแย่แน่ ๆ เลย..”
“...”
“ทำไงดี ฮือ”
“ไม่อยากไปแล้วก็ไม่ต้องไปครับ”
“...”
“พี่ก็ไม่ได้อยากให้หนูไปไหนอยู่แล้ว”
“...”
“ขนาดอยู่กับพี่หนูยังดื้อทำตัวเองเจ็บตัวตั้งหลายรอบ ไปอยู่ที่นั่นจะทำพี่ห่วงขนาดไหน” ว่าพร้อมกับลูบแก้มนิ่มของน้องเบาๆ ที่ตอนนี้เจ้าตัวร้องไห้จนน้ำตานองหน้าไปหมดแล้ว
“ฮื่ออ..”
“อยู่กับพี่นะ ถ้าหนูอยากเรียนต่อก็เรียนที่นี่ก็ได้”
“...”
“ถ้าอยากไปที่นั่น ไว้ว่าง ๆ พี่พาหนูไปเที่ยวด้วยกันดีไหม หื้ม?”
“...”
“ไม่เอาหรอ..” เมื่อเห็นน้องก้มเอาหน้าซุกกอดเขานิ่งๆ แถมยังร้องไห้ไม่ยอมหยุด โซลก็เริ่มใจแป้วอีกครั้ง ในใจเริ่มกลัวว่าน้องเลือกที่จะไปห่างจากเขามากกว่าอยู่ด้วยกัน
“จู..”
“ฮื่อ เราไม่ไปแล้วก็ได้..แต่ถ้าโซลทิ้งเราไม่เลี้ยงเราแล้ว เราจะหอบลูกไปขายดอกไม้กับม้าจริง ๆ นะ..โอ๊ย!”
“ใครจะทิ้งหนูวะ”
“งือ..เจ็บอ่า” คนน้องลูบหัวตัวเองปอยๆ หลังจากโดนพี่เขาเขกหัวอย่างไม่เบาแรงนัก ริมฝีปากเล็กยู่เข้ากันก่อนที่จะเอาใบหน้าตัวเองซุกกับไหล่พี่เขาอย่างออดอ้อน
“สมควร..”เอ่ยปากว่าไปอย่างนั้นแต่ก็ยิ้มขำให้กับท่าทางของคนตรงหน้า มือหนาก็ลูบหัวบริเวณที่ตัวเองทำน้องเจ็บไปด้วย “ถึงไม่เรียนพี่ก็เลี้ยงหนูอยู่แล้ว”
“งั้นเราไม่ต้องทำอะไรแล้วใช่ไหม โอ๊ยย! โซลอีกแล้วอ่า..” ส่งเสียงร้องฮือเมื่อถูกพี่เขาเขกหัวให้อีกรอบ
“เดี๋ยวจะโดน”
“อะไรเล่าก็บอกเองว่าจะเลี้ยงเราอะ” บ่นอุบอิบพร้อมกับกอดซุกคนตัวโตไปด้วย
“หึ..”
“โซล..” เสียงเรียกของน้องทำให้พี่เขาเลิกคิ้วมอง ก่อนจะชะงักไปนิดหน่อยเมื่อถูกริมฝีปากคนตรงหน้าแตะที่อวัยวะเดียวกันเบาๆ แล้วผละออกมายิ้มน่ารักให้จนเขาคิดอยากจับคนตรงหน้าฟัดเสียเดี๋ยวนี้
“…”
“รักพี่โซลนะครับ..”
“...”
“โซล บอกกลับหน่อย..” ดวงตาคมสบเข้ากับนัยน์ตาใสเป็นประกายราวกับลูกแมวขี้อ้อน พี่เขามองใบหน้าของคนตรงหน้าอย่างหลงใหลโดยที่ไม่รู้จักเบื่อเลยสักนิด
“หนูแม่งชอบน่ารักอีกแล้วอะ”
“...”
“พี่เหนื่อยไม่รู้บ้างไง”
“ง่า..”
“หึ ถ้าอยู่ด้วยกันสองคน พี่สาบานจะจับหนูบอกรักตั้งแต่ตอนนี้เลย..”
“หมายความว่างะ..อื้ออ”
ยังไม่ทันพูดจบก็ถูกพี่เขาเชยคางขึ้นมารับจูบหวานๆอย่างไม่ทันตั้งตัว คนพี่กดจูบที่ริมฝีปากสวยตอกย้ำความน่ารักของคนตรงหน้าซ้ำๆจนริมฝีปากน้องเริ่มแดงเจ่อรวมถึงใบหน้าที่ขึ้นสีระเรื่อลามไปถึงหู ก่อนที่พี่เขาจะผละออกอย่างนึกเสียดายเมื่อเริ่มถูกคนน้องต่อต้าน แต่ก็ยังคงคลอเคลียที่ข้างแก้มใสอยู่อย่างนั้น
“จู..ทำไงดีวะ พี่โคตรรักหนูเลย”
“ฮื่อ..ไม่ต้องทำอะไรหรอก โซลก็แค่รักหนูไปเรื่อยๆไง ดีไหมครับ?”
แม่ง..ให้ตายเถอะ
เขาโคตรแพ้คนตรงหน้า
โคตรแพ้น้องเลย
.....
รูปประกอบก้อนเมฆในห้องน้องจะประมาณนี้ ;-; เผื่อนึกไม่ออกงับ
.....
ไปอ่านต่อ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น